รัสเซียอ้างว่าพบ “ฝิ่นดิบและมอร์ฟีน” บน “เรือกรีนพีซ” ประท้วงแท่นขุดเจาะในอาร์กติก

เอเจนซีส์ - เจ้าหน้าที่รัสเซียเผยในวันพุธ (9) ว่า พบยาเสพติดในรูปฝิ่นดิบและมอร์ฟีนบนเรือของกลุ่ม “Arctic Sunrises” ที่สังกัดกรีนพีซ โดยกลุ่มนักเคลื่อนไหวทั้ง 30 คน ได้ทำการประท้วงใกล้กับแท่นขุดเจาะน้ำมันพริลาซโลมนายาของบริษัท แกซปรอม ในมหาสมุทรอาร์กติก เมื่อเดือนที่ผ่านมา ในขณะที่ทางกรีนพีซโต้ผ่านแถลงการว่า ยาเสพติดที่พบเป็นการจัดฉากเพื่อใส่ร้าย

กรรมการสอบสวนของรัสเซียเปิดเผยในวันพุธ (9) ถึงการพบฝิ่นดิบและมอร์ฟีนในเรือของกรีนพีซที่ทำการประท้วงในมหาสมุทรอาร์กติกเมื่อกันยายนที่ผ่านมา โดยฝิ่นดิบนี้สามารถนำไปสกัดเป็นมอร์ฟีนหรือเฮโลอีนได้ ซึ่ง วลาดิมีร์ แมร์คิน โฆษกของคณะกรรมการสอบสวนเผยผ่านแถลงการณ์ว่า “นอกเหนือไปจากยาเสพติดที่พบแล้ว อุปกรณ์ที่ยึดได้จากเรือกรีนพีซนั้นสามารถถูกใช้ใน 2 ทางได้ โดยไม่จำกัดเฉพาะด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมเท่านั้น” และเขาเสริมต่อว่า “ดูเหมือนจะมีนักเคลื่อนไหวบางคนจงใจที่จะทำร้ายเจ้าหน้าที่ยามฝั่งรัสเซีย ซึ่งทำให้มีอันตรายต่อชีวิตของพวกเขา และอาจทำให้ต้องมีการเปลี่ยนข้อกล่าวหา ซึ่งนักเคลื่อนไหวหลายคนคนอาจจะต้องโดนข้อหาหนักทางอาญา”

ในขณะที่ทางกลุ่มกรีนพีซได้ออกแถลงการตอบโต้ว่า ยาเสพติดที่ถูกยึดนั้นเป็น “การป้ายสี” พร้อมกับเสริมว่า “เราได้แต่สันนิษฐานว่าทางการรัสเซียนั้นอ้างถึงนั้นเป็นเพียงผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ในเรือกรีนพีซที่ถูกอนุญาตให้มีได้ภายใต้กฎหมายสถานการณ์ภาวะฉุกเฉินสากลเท่านั้น โดยก่อนที่เรือของทางกลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมนี้จะแล่นออกจากท่า เจ้าหน้าที่ชาวนอร์เวย์พร้อมสุนัขดมกลิ่นได้ตรวจสอบ และไม่พบมียาเสพติดซ่อนอยู่บนเรือแต่อย่างใด

โดยก่อนหน้านี้ นักเคลื่อนไหวกลุ่ม “Arctic Sunrises” ที่สังกัดกรีนพีซราว 30 คนถูกเจ้าหน้าที่รัสเซียจับกุมหลังจากพยายามที่จะประท้วงใกล้แท่นขุดเจาะน้ำมันพริลาซโลมนายาของบริษัท แกซปรอม เมื่อวันที่ 18 กันยายนที่ผ่านมา ซึ่งแท่นขุดเจาะแห่งนี้เป็นความพยายามของรัสเซียที่จะหาน้ำมันในทะเลบาเรนซ์ ของอาร์กติก และในวันอังคาร (8) ที่ผ่านมา ผู้อำนวยการบริหารของกรีนพีซสากล คูมิ ไนดู ได้ส่งจดหมายถึงประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย พร้อมแสดงความจำนงเพื่อจะเดินทางมาพบกับปูตินที่กรุงมอสโก และยินดีที่จะรับรองให้นักเคลื่อนไหวทั้ง 30 คน ที่ถูกจับกุมตัวอยู่ในขณะนี้จะไม่หลบหนีหากได้รับการประกัน

ซึ่งมีความวิตกกังวลไปทั่วโลกถึงชะตากรรมของนักเคลื่อนไหวทั้ง 30 คน ที่มาจาก 18 ประเทศ ที่มีชาวอังกฤษ 6 คน อยู่ในนั้นด้วย โดยพวกเขามีโอกาสสูงที่จะถูกจำคุกในรัสเซียเป็นเวลา 10-15 ปี ในข้อหาโจรสลัด โดยทางเนเธอร์แลนด์ได้เรียกร้องให้รัสเซียปล่อยตัวนักเคลื่อนไหวทั้งหมดในทันที รวมไปถึงเรือที่ติดธงชาติฮอลแลนด์ที่ทางการรัสเซียเข้ายึดอีกด้วย นอกจากนี้ อังกฤษได้พยายามเข้าช่วยเหลือนักเคลื่อนไหวสัญชาติอังกฤษ โดยการส่งเจ้าหน้าที่ไปปรึกษาหารือกับสถานทูตรัสเซียประจำอังกฤษ