เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - ผลการศึกษาทั้งในสหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกาชี้ ผู้คนที่พักอาศัยอยู่ใกล้กับ “สนามบิน” มีความเสี่ยงสูงที่จะล้มป่วยด้วยโรคเส้นโลหิตที่ไปเลี้ยงสมองอุดตัน โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ และอาการผิดปกติอีกหลายประการของหัวใจ จากผลของการที่ต้องทนอยู่กับเสียงที่ดังรบกวนของเครื่องบินอยู่เป็นประจำ
ผลการศึกษาล่าสุดยืนยันว่า เสียงของเครื่องบินไม่ว่าจะเป็นขณะทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า หรือขณะลงจอด มีผลเสียต่อสุขภาพของมนุษย์และคุณภาพชีวิตอย่างเลวร้าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับประชาชนที่ต้องอยู่อาศัยในพื้นที่โดยรอบสนามบิน พร้อมวอนหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องในทุกประเทศคำนึงถึงปัจจัยด้านเสียงรบกวนให้มากขึ้น หากจะมีการสร้างสนามบินแห่งใหม่ในประเทศของตน
ผลการศึกษาล่าสุดของทีมนักวิจัยในอังกฤษที่นำโดย ดร.แอนนา แฮนเซลล์ แห่ง “อิมพีเรียล คอลเลจ ลอนดอน” ที่มีการตีพิมพ์เผยแพร่ในวารสารบริติช เมดิคอล เจอร์นัล ระบุผู้คนที่อาศัยอยู่ใกล้กับที่ตั้งของสนามบินในอังกฤษ มีความเสี่ยงที่จะล้มป่วยด้วยโรคเส้นโลหิตที่ไปเลี้ยงสมองอุดตัน โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ และอาการผิดปกติอีกหลายประการของหัวใจมากกว่าคนทั่วไป 10-20 เปอร์เซ็นต์
ขณะที่ผลการศึกษาที่เกี่ยวข้องกันในสหรัฐฯโดยทีมนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด และมหาวิทยาลัยบอสตัน พบว่าในเวลานี้มีชาวอเมริกันที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไปมากกว่า 6 ล้านคนที่ต้องใช้ชีวิตอยู่ใกล้กับสนามบิน 89 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งคนกลุ่มนี้จะมีความเสี่ยงในการล้มป่วยด้วยโรคดังกล่าวเพิ่มสูงขึ้นราว 3.5 เปอร์เซ็นต์ ในระดับความดังของเสียงเครื่องบินที่เพิ่มขึ้นทุกๆ 10 เดซิเบล
นอกจากนั้น ทีมวิจัยสหรัฐฯยังพบว่า ราว 2.3 เปอร์เซ็นต์ของผู้ป่วยโรคหัวใจ และหลอดเลือดที่ต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลนั้น เป็นผู้ที่อาศัยอยู่ใกล้กับสนามบินและต้องทนทุกข์กับเสียงของเครื่องบินอยู่เป็นประจำ