รอยเตอร์ – รัฐบาลจีนฝากคำเตือนถึงสหรัฐฯ, ออสเตรเลีย และญี่ปุ่น ว่าอย่าใช้ความเป็นพันธมิตรแทรกแซงข้อพิพาทในทะเลจีนตะวันออกและทะเลจีนใต้ และไม่ควรยั่วยุให้ความขัดแย้งในภูมิภาคลุกลามขึ้นอีก
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (4) รัฐมนตรีต่างประเทศออสเตรเลีย จูลี บิชอป, รัฐมนตรีต่างประเทศญี่ปุ่น ฟูมิโอะ คิชิดะ และรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ จอห์น เคร์รี ได้หยิบยกปัญหาการแก่งแย่งอธิปไตยในทะเลจีนตะวันออกและทะเลจีนใต้ขึ้นมาหารือในการประชุมเชิงยุทธศาสตร์ไตรภาคี ระหว่างการประชุมกลุ่มผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปก ครั้งที่ 21 ที่เกาะบาหลี ประเทศอินโดนีเซีย
การช่วงชิงกรรมสิทธิ์เหนือหมู่เกาะเล็กๆ ในทะเลจีนตะวันออกที่ทางญี่ปุ่นเรียกว่า “เซ็งกากุ” ส่วนชาวจีนก็รู้จักในนาม “เตี้ยวอี๋ว์” ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างมหาอำนาจทางเศรษฐกิจอันดับ 2 และ 3 ของโลกเสื่อมถอยลงในช่วงไม่กี่ปีมานี้ ขณะที่ปักกิ่งก็ยังบาดหมางกับเวียดนาม, ฟิลิปปินส์, ไต้หวัน, มาเลเซีย และบรูไน เกี่ยวกับอธิปไตยในน่านน้ำทะเลจีนใต้ ซึ่งเป็นทั้งแหล่งน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ
เว็บไซต์กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ได้เผยแพร่ถ้อยแถลงร่วมระหว่างรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ, ญี่ปุ่น และออสเตรเลีย ซึ่งมีใจความสำคัญว่า ทั้ง 3 ชาติไม่เห็นด้วยกับ “การข่มขู่ หรือการกระทำฝ่ายเดียว” ที่อาจทำให้สภาพการณ์ในปัจจุบันของทะเลจีนตะวันออกเปลี่ยนแปลงไป และเรียกร้องให้ชาติที่อ้างกรรมสิทธิ์ในทะเลจีนใต้หลีกเลี่ยงการกระทำใดๆ ก็ตามที่จะบั่นทอนเสถียรภาพของภูมิภาคนี้
ล่าสุด กระทรวงการต่างประเทศจีนมีถ้อยแถลงตอบโต้ในวันนี้ (7) โดยโฆษก หวา ชุนหยิง แถลงผ่านเว็บไซต์กระทรวงว่า “สหรัฐฯ, ญี่ปุ่น และออสเตรเลียเป็นพันธมิตรกันก็จริง แต่ไม่ควรใช้สิ่งนี้เป็นข้ออ้างแทรกแซงข้อพิพาทดินแดน ไม่เช่นนั้นปัญหาอาจจะยิ่งบานปลาย และทำลายผลประโยชน์ของทุกฝ่าย”
“เราขอวิงวอนให้ทุกประเทศที่เกี่ยวข้องเคารพความเป็นจริง แยกแยะถูกผิด ใช้ความรอบคอบ และหยุดใช้คำพูดหรือการกระทำที่จะไม่เป็นผลดีต่อการจัดการปัญหาอย่างเหมาะสม และอาจจะทำลายเสถียรภาพในภูมิภาค”
ฉิน กัง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนอีกคนหนึ่ง ยังแสดงความไม่เห็นด้วยที่รัฐมนตรีต่างประเทศญี่ปุ่นนำปัญหาความมั่นคงทางทะเลมาหารือในการประชุมรอบเช้าแบบไม่เป็นทางการระหว่างรัฐมนตรีทั้ง 3 ชาติ โดยชี้ว่าทุกประเทศต่างเล็งเห็นถึงความไม่เหมาะสมที่จะหยิบยกปัญหาการเมือง หรือประเด็นขัดแย้งระหว่างประเทศที่ค่อนข้างละเอียดอ่อน มาพูดในเวทีเอเปก