เอเจนซี - เอฟบีไอวันพุธ (25) เผยแพร่ภาพจากวิดีโอวงจรปิดและรูปถ่าย วินาทีที่นายแอรอน อเล็กซิส ก่อเหตุกราดยิงที่ฐานทัพเรือแห่งหนึ่งของสหรัฐฯ พร้อมแฉชายรายนี้เคยพูดคุยผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์บอกว่าตนเองถูกคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าควบคุม หลายเดือนก่อนหน้าที่จะลงมือสังหารหมู่ 12 ศพเมื่อกลางเดือนที่ผ่านมา
วาเรอลี ปาร์ลาฟ ผู้ช่วยผู้อำนวยการสำนักงานภาคสนามวอชิงตันของสำนักงานสอบสวนกลาง (เอฟบีไอ) ระบุด้วยว่าไม่มีสัญญาณใดๆ ที่บ่งชี้ว่านายอเล็กซิส วัย 34 เล็งเป้าหมายไปที่บุคคลใดบุคคลหนึ่งในการก่อเหตุที่เนวียาร์ด ทางตะวันออกเฉียงใต้วอชิงตัน เมื่อวันที่ 16 กันยายน “เราพบการติดต่อสื่อสารเกี่ยวข้องกันบนสื่ออิเล็กทรอนิกส์ของเขา ซึ่งอ้างถึงการหลงผิดเชื่อว่าตนเองกำลังถูกควบคุมหรือตกอยู่ใต้อิทธิพลของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าความถี่ต่ำช่วง 3 เดือนหลังสุด”
ภาพจากกล้องวงจรปิดที่เผยแพร่โดยเอฟบีไอ เผยให้เห็นว่านายอเล็กซิสขับรถเช่าโตโยต้า พรีอุส สีน้ำเงิน เข้าไปที่โรงจอดรถของเนวียาร์ด ตอนเวลาประมาณ 08.00 น. จากนั้นเขาที่สะพายเป้ก็เดินผ่านประตูเข้าไปยังอาคารศูนย์บัญชาการระบบปฏิบัติการทางทะเล อันเป็นสถานที่เกิดเหตุ
ต่อมาในวิดีโอสั้นๆ ก็พบเห็นนายอเล็กซิสถืออาวุธปืนสั้นเรมิงตันและสวมชุดสีเข้มลงจากบันไดและเดินสอดส่ายไปตามทางเดินในท่าย่อตัว ขณะที่มือก็จับปืนในท่าพร้อมสำหรับโจมตี จากนั้นก็เห็นผู้คนตรงสุดทางเดินแวบหนึ่ง ทำให้นายอเล็กซิสต้องค่อยๆ ย่องในท่าย่อตัวจากมุมหนึ่งเข้าไปในห้อง แต่ภาพที่เห็นนั้นยังไม่มีการยิงแต่อย่างใด
ในส่วนของภาพถ่ายนั้นเป็นรูปปืนของเขาที่สลักข้อความต่างๆ เอาไว้ นอกจากนี้แล้วยังมีภาพของกระเป๋าเป้ของเขาแขวนอยู่ในห้องส้วมด้วย ทั้งนี้ นายอเล็กซิสเริ่มต้นยิงเหยื่อคนแรกตอนเวลาประมาณ 08.16 น. และตำรวจได้รับแจ้งเหตุฉุกเฉินจากเจ้าหน้าที่ที่อยู่บนชั้น 4 ของอาคารในอีกราว 1 นาทีต่อมา
ปาร์ลาฟบอกต่อว่า นายอเล็กซิสซึ่งเป็นพนักงานของบริษัทคอมพิวเตอร์ที่เป็นคู่สัญญาของกองทัพสหรัฐฯ ปฏิบติการเพียงลำพัง และถูกตำรวจปลิดชีพบริเวณชั้น 3 หลังจากดวลปืนกันนานราว 1 ชั่วโมง
เหตุกราดยิงครั้งนี้ก่อคำถามว่า ทำไมนายอเล็กซิสถึงได้รับอนุญาตให้ผ่านระบบมาตรการรักษาความปลอดภัยเข้าไปยังฐานทัพ ทั้งที่ก่อนหน้านี้เขาเคยมีประวัติใช้อาวุธปืนในทางที่ผิด ทั้งนี้ นายอเล็กซิสยังแสวงหาความช่วยเหลือเกี่ยวกับโรคนอนไม่หลับจากโรงพยาบาลทหารผ่านศึก 2 แห่ง และยังเคยบอกกับตำรวจโรด ไอส์แลนด์ ว่าได้ยินเสียงดังออกมาจากกำแพงของโรงแรม
