เอเอฟพี - ราคาน้ำมันนิวยอร์กวานนี้ (24) ขยับลง นักลงทุนคลายกังวลทางอุปทาน หลังวิกฤตโครงการนิวเคลียร์อิหร่านส่อแววคลี่คลายด้วยการเจรจา ส่วนวอลล์สตรีททรงตัวและทองคำปรับลด จับตาความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการตัดลดงบประมาณรายจ่ายของสหรัฐฯ ที่เดโมแครตและรีพับลิกันยังงัดข้อกันอยู่
สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน ลดลง 46 เซ็นต์ ปิดที่ 103.13 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 48 เซ็นต์ ปิดที่ 108.64 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ความเคลื่อนไหวในแดนลบของราคาน้ำมันเมื่อเร็วๆ นี้ ส่วนหนึ่งมาจากโอกาสลดน้อยถอยลงเรื่อยๆ ที่สหรัฐฯ จะใช้กำลังทหารโจมตีซีเรีย ขณะเดียวกัน อีกปัจจัยที่คลายความกังวลทางอุปทานแก่นักลงทุนก็คือ ความเป็นไปได้ของการใช้แนวทางด้านการทูตคลี่คลายความขัดแย้งระหว่างชาติตะวันตกกับอิหร่าน เกี่ยวกับโครงการนิวเคลียร์ของเตหะราน
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ วานนี้ (24) ปิดผสมผสานในกรอบแคบๆ นักลงทุนจับตาขัดแย้งด้านการตัดลบงบประมาณในสภาคองเกรส ขณะที่เส้นตายซึ่งหน่วยงานของรัฐบาลกลางต้องหยุดทำงานตั้งแต่วันอังคารหน้า (1 ต.ค.) หากสองฝ่ายตกลงกันไม่ได้ก็ขยับเข้าใกล้มาทุกที
ดัชนีดาวโจนส์ ลดลง 66.47 จุด (0.43 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 15,334.91 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 4.38 จุด (0.29 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,679.49 จุด แนสแดคเพิ่มขึ้น 2.97 จุด (0.08 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 3,768.25 จุด
นักลงทุนจับตาอย่างเป็นกังวล ก่อนหน้าเส้นตายงบประมาณรายจ่ายประจำปีของรัฐบาลจะมาถึงในวันที่ 1 ตุลาคมนี้ ขณะที่ทั้งพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันยังคงเห็นต่างกัน ทั้งนี้ หากร่างกฎหมายนี้ไม่ผ่านสภาคองเกรส ก็จะส่งผลให้หน่วยงานของรัฐบาลกลางบางส่วนต้องปิดทำการตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นเดือนตุลาคมเป็นต้นไป
ปัจจัยนี้ประกอบกับยังมีความเป็นไปได้ที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะลดระดับกระตุ้นเศรษฐกิจ ก็ส่งผลให้ราคาทองคำวานนี้ (24) ขยับลงพอสมควร โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 10.70 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,316.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์