xs
xsm
sm
md
lg

ฉาวคุกคามสื่อในอเมริกา!! “อดีตFBI” ยอมรับผิดเปิดแผน“อัลกออิดะห์ระเบิดเครื่องบินสหรัฐฯ” ให้ “เอพี”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เอเอฟพี/เอเจนซีส์ - แถลงการจากกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯในวันจันทร์(23)ว่า อดีตเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญด้านระเบิดของ FBI สหรัฐฯ โดนัลด์ ซาชต์เลเบน วัย 55 ปี ยอมรับผิดในข้อหา “เผยความลับความมั่นคงของสหรัฐฯให้กับบุคคลอื่นที่ไม่มีความเกี่ยวข้อง” หลังจากที่มีข่าวฉาวคุกคามสื่อแพร่ออกมา จากการที่นักข่าวและพนักงานของเอพีแอบถูกดักฟังใช้โทรศัพท์อย่างลับๆ จากทางการสหรัฐฯ โดยซาชต์เลเบน ได้เผยความลับให้กับเอพีในข่าวงกลุ่มอัลกออิดะห์วางแผนที่จะระเบิดเครื่องบินของสหรัฐฯเที่ยวบินออกมาจากเยเมนในวันฉลองครบรอบการเสียชีวิต 1 ปีของบินลาเดน

โดนัล ซาชต์เลเบน วัย 55 ปี ที่มีประสบการทำงานมากว่า 25 ปี ในตำแหน่งผู้เชี่ยวชาญด้านระเบิดของหน่วยงาน FBI สหรัฐฯ และเขาได้เกษียณในปี 2008 แต่ยังปฎิบัติหน้าที่อยู่ในฐานะพนักงานตามระยะเวลาสัญญา โดยซาชต์เลเบนได้ยื่นเรื่องขอยอมรับผิดในการละเมิดกฏหมายความมั่นคงของสหรัฐฯ อ้างจากเอกสารจากศาลสหรัฐฯเมื่อวานนี้(23) และนอกจากนี้ในวันเดียวกัน เขายังขอยอมรับผิดในอีกคดีที่ไม่เกี่ยวข้องกันในการเป็นผู้เผยแพร่ภาพอนาจารเด็ก รายงานจากเอกสารของศาลสหรัฐฯ

“ผมขอโทษอย่างสุดซึ้งในการกระทำทั้งหมด” ซาชต์เลเบนกล่าวผ่านแถลงการที่แจกจ่ายโดยทนายของเขาทั้ง 2 คน ลาร์รี แมคคี และ กาธลีน สวีนีย์ “ผมไม่เคยมีความคิดที่จะทำร้ายสหรัฐฯและชาวอเมริกัน และผมไม่มีข้อแก้ตัวให้กับตัวเอง ผมเข้าใจและยอมรับต่อกระบวนการยุติธรรมที่จะเริ่มในวันนี้ในความผิดทั้งหมดที่ผมได้ทำไป และผมรู้ดีว่ากระบวนการยุติธรรมที่ครั้งหนึ่งผมมีส่วนร่วมอย่างภาคภูมิใจนั้นจะมีคำพิพากษาออกมาในที่สุด”

นอกจากนี้เจ้าหน้าที่สหรัฐฯยังเปิดเผยต่อไปว่า การเปิดเผยข้อมูลที่รั่วออกมานั้นนำไปสู่บทความชิ้นหนึ่งของเอพีในเดือนพฤษภาคม 2012 ที่ทางเอพีได้เปิดเผยเป็นครั้งแรกถึงปฏิบัติการของCIAที่ทำให้แผนการระเบิดเครื่องบินสหรัฐฯของกลุ่มก่อการร้ายอัลกออิดะห์ในเคนยาต้องล้มเหลว ซึ่งจากการเปิดเผยครั้งนี้ทำให้ปฏิบัติการของCIAนั้นเป็นอันตรายมาก เพราะเป็นการทำงานนอกเครื่องแบบของเจ้าหน้าที่เพื่อหน่วยการข่าวความมั่นคงของอังกฤษในสถานที่เสี่ยงภัย

และจากการที่ซาชต์เลเบนยอมเป็นแหล่งข่าวให้เอพีครั้งนี้ นำมาสู่การสอบสวนที่อื้อฉาวของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯในการขอหมายศาลเพื่ออนุญาตในการดักฟัง เพื่อรวบรวมข้อมูลการใช้โทรศัพท์ของนักข่าวและพนักงานของเอพีเกือบร้อยคนระหว่างเดือนเมษายนถึงเดือนพฤษภาคม 2012ในการหาตัวแหล่งข่าวนี้ และกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯยอมรับว่า “เป็นจำนวนน้อยครั้งมากที่กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯจะพุ่งเป้าไปที่นักข่าวเพื่อช่วยในการสืบสวนคดี”

“ซาชต์เลเบนเป็นผู้ต้องสงสัยในการเผยข้อมูลของสหรัฐฯ หลังจากข้อมูลการใช้โทรศัพท์นั้นไปโยงกับนักข่าวเอพีที่ได้จากการขอหมายศาล และมีการเปรียบเทียบกับหลักฐานอื่นๆในระหว่างการสืบสวนคดีนี้” โดยทางกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯได้เผยต่อว่า “เจ้าหน้าที่สอบสวนสามารถขอหมายศาลเพื่อตรวจสอบข้อมูลการใช้โทรศัพท์ของซาชต์เลเบนจากการใช้โทรศัพท์ของนักข่าว และข้อมูลการใช้โทรศัพท์ของซาชต์เลเบน คอมพิวเตอร์ รวมถึงสื่ออิเล็กทรอนิกต่างๆ ที่อยู่ในการครอบครองของหน่วยงานFBI จากการสอบสวนในอีกคดีเผยแพร่ภาพอนาจารเด็กที่ไม่เกี่ยวข้องกัน ในขณะที่โฆษกของเอพี พอล โคลฟอร์ด ย้ำว่าทางเอพียังคงเกาะติดคดีการแอบดักฟังโทรศัพท์ของนักข่าวต่อไป เพราะถือว่าเป็นการเข้ามายุ่งเกี่ยวอย่างไม่จำเป็นของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ “ทางเอพีได้ประนามในครั้งนั้นที่ข้อมูลหลักฐานของเรานั้นถูกตรวจสอบด้วยการกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯในการขออำนาจจากศาล” และโคลฟอร์ดย้ำว่า “ทางเอพีไม่เคยเอ่ยชื่อของแหล่งข่าวในข่าวชิ้นใดๆ”

นอกจากนี้แล้ว ดูเหมือนที่เป็นเรื่องบังเอิญมากที่ทาง FBI ได้จับกุมซาชต์เลเบน 9 วันหลังจากที่เขาได้เปิดเผยถึงข้อมูลที่เชื่อมโยงกับการเป็นผู้เผยความลับปฎิบัติการ จากเอกสารของศาลสหรัฐฯที่ได้ระบุว่า ทาง FBIได้พุ่งเป้าไปที่ซาชต์เลเบนหลังมีการจับกุมผู้ต้องหาชาวอิลลินอยส์ที่ได้แอบทำการซื้อขายภาพอนาจารเด็กด้วย โดยในคอมพิวเตอร์แล็ปทอปของซาชต์เลเบนมีรูปภาพอนาจารเด็อยู่ราว 30 ภาพ และพบว่าไฟล์รูปภาพที่ซาชต์เลเบนมีนั้นตรงกับที่ผู้ต้องหาชาวอิลลินอยส์มีในความครอบครอง


อดีตเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญด้านระเบิดของ FBI สหรัฐฯ โดนัลด์ ซาชต์เลเบน วัย 55 ปี

กำลังโหลดความคิดเห็น