เอพี – รัฐบาลเม็กซิโกได้ระดมกำลังออกค้นหาเหยื่อ และประเมินความเสียหายที่เกิดขึ้นจากพายุโซนร้อน “มานูเอล” และพายุเฮอริเคน “อิงกริด” เมื่อวานนี้ (21 ก.ย.) ขณะที่พบว่าเฮลิคอปเตอร์ตำรวจลำหนึ่งซึ่งสูญหายไประหว่างปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือผู้รอดชีวิตประสบอุบัติเหตุจนทำให้ผู้โดยสารทั้งลำเสียชีวิต
ในช่วงเวลาเดียวกันนี้ ที่กรุงเม็กซิโกซิตีได้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ทั้งที่อยู่ในรูปบทบรรณาธิการของสื่อมวลชน และการแสดงความคิดเห็นของประชาชนว่า รัฐบาลเม็กซิโกทำให้สถานการณ์ภัยธรรมชาติย่ำแย่ลงไปอีก เนื่องจากการวางแผนอย่างไร้ประสิทธิภาพ การขาดยุทธศาสตร์ในการป้องกัน และการคอร์รัปชัน
“รัฐบาลไม่ได้มีส่วนต้องรับผิดชอบกับสภาพอากาศเลวร้ายที่เกิดขึ้น แต่พวกเขาต้องรับผิดชอบในการป้องกันผลกระทบที่เกิดขึ้นตามมา” “ศูนย์ตรวจสอบเพื่อการพัฒนา” องค์กรไม่แสวงหาผลกำไรของเม็กซิโกได้เขียนบทบรรณาธิการออนไลน์ซึ่งมุ่งวิจารณ์โครงการหนึ่งของรัฐที่จะปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน และการเคลื่อนย้ายชุมชนออกจากพื้นที่เสี่ยงภัยน้ำท่วม “โครงการจัดการน้ำแห่งชาติมีความตั้งใจดี แต่การปฏิบัติไม่ได้เรื่อง”
ประธานาธิบดี เอนริเก เปนา เนียโต แห่งเม็กซิโก และอังเคล อากีร์เร ผู้ว่าการรัฐเกร์โร ได้บินไปที่ภูเขา ซึ่งเป็นพื้นที่ปลูกกาแฟ ในบริเวณห่างไกลทางตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองอะกาปุลโก และใกล้กับโบราณสถานลาปินตาดา โดยพื้นที่แห่งนี้เป็นบริเวณที่ได้รับความเสียหายอย่างเลวร้ายที่สุด
เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่แล้ว พายุอิงกริดและมานูเอลได้พัดถล่มชายฝั่งสองแห่งของเม็กซิโกพร้อมกัน จนทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 101 ราย โดยยังไม่รวมถึงเหยื่อที่เสียชีวิตจากเหตุเฮลิคอปเตอร์ตก นอกจากนี้ยังมีประชาชนอีก 68 ชีวิตสูญหายในลาปินตาดา ซึ่งทหารยังระดมกันขุดหาผู้รอดชีวิตหลังจากเกิดดินถล่มทับเมืองไปครึ่งหนึ่ง
“ตอนนี้แทบจะไม่มีความหวังว่าเราจะค้นพบผู้รอดชีวิตอีกแล้ว” เปนา เนียโต ระบุภายหลังการออกบินสำรวจ โดยกล่าวเสริมว่าดินที่ถล่มลงมาได้ทับบ้านเรือนไปอย่างน้อย 40 หลัง
อากีร์เรและเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลคนอื่นๆ กล่าวยืนยันอย่างเปิดเผยว่า การคอร์รัปชันและการจัดสรรผลประโยชน์ทางการเมืองทำให้เกิดการสร้างที่พักอาศัยตามพื้นที่เสี่ยงภัย ที่ไม่ควรมีการอนุญาตให้สร้างได้
“เรื่องนี้เป็นความรับผิดชอบของพวกเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจหน้าที่” มิเกล อังเคล โอโซเรียว ชอง รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยเม็กซิโก กล่าวในการแถลงข่าวเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา “ในบางกรณี (จะสร้างอาคาร) อยู่ในพื้นที่ที่ไม่ปกติ แต่พวกเขาก็ยังออกเอกสารอนุญาตให้”
ทั้งรัฐบาลกลาง และรัฐบาลของรัฐต่างๆ เพิ่งขึ้นมาดำรงตำแหน่งและอ้างว่า เรื่องพวกนี้เกิดขึ้นในสมัยของรัฐบาลชุดก่อน แม้ว่าโอโซเรียว ชอง จะกล่าวว่าต่อไปนี้ อากีร์เร และนายกเทศมนตรีของเมืองอะกาปุลโกจะไม่อนุญาตให้เหยื่อที่กำลังหนีภัยน้ำท่วมกลับไปอยู่อาศัยในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูงอีก อย่างไรก็ตามนี่อาจจะไม่ใช่กรณีของรัฐและเทศบาลอื่นๆ อีกเป็นจำนวนมาก
สำหรับ เฮลิคอปเตอร์ตำรวจที่ประสบเหตุร้ายได้หายสาบสูญไปตั้งแต่วันพฤหัสบดี (19) และเพิ่งพบในช่วงเช้าวานนี้ (21) เอดัวร์โด ซันเชซ โฆษกรัฐบาลระบุว่า กำลังตรวจสอบยอดเหยื่อผู้เสียชีวิตจากเหตุเครื่องบินตก โดยอาจมี 2 ถึง 5 ราย
ทั้งนี้ เฮลิคอปเตอร์ลำนี้กำลังบินกลับจากลาปินตาดา ซึ่งตอนแรกมีสภาพอากาศเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการบินเข้าสู่พื้นที่ และขัดขวางภารกิจช่วยเหลือผู้รอดชีวิต
เมื่อกลางดึกของคืนวันศุกร์ (20) รัฐบาลเม็กซิโกได้เปิดเผยรายงานความเสียหายจากพายุอิงกริดและมานูเอล
พายุทั้งสองลูกได้สร้างความเสียหายให้ 24 รัฐจากทั้งหมด 31 รัฐของเม็กซิโก และเขตเทศบาล 371 แห่ง มีประชาชนถึง 58,000 คนต้องอพยพออกจากบ้านเรือน และ 43,000 คนเข้าอาศัยในที่พักพิงชั่วคราว มีการก่อตั้งศูนย์รับบริจาคเกือบ 1,000 แห่งทั่วประเทศ จนถึงตอนนี้มีผู้บริจาคข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็นมาที่รัฐเกร์โร ซึ่งได้รับผลกระทบอย่างหนักหน่วงที่สุดหนักเกือบ 700 ตัน ประชาชนเกือบ 800,000 คนไม่มีไฟฟ้าใช้ แม้ว่าคณะกรรมาธิการพลังงานไฟฟ้าจะระบุว่าในช่วงเช้าวานนี้ (21) ไฟฟ้าสามารถกลับมาใช้งานได้แล้ว 97 เปอร์เซ็นต์ ก็ตาม