เอเอฟพี/เอพี - ราคาน้ำมันลงแรงวานนี้ (19) ส่วนวอลล์สตรีท ก็ปิดในกรอบแคบ เหตุนักลงทุนทบทวนทิศทางในอนาคต หลังเฟดยังไม่ลดระดับกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างที่คาด อย่างไรก็ตามปัจจัยหลังนี้ยังส่งอิทธิพลต่อตลาดทองคำ และส่งให้โลหะมีค่าชนิดนี้พุ่งขึ้นกว่า 61 ดอลลาร์
สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนตุลาคม ลดลง 1.68 ดอลลาร์ ปิดที่ 106.39 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 1.84 ดอลลาร์ ปิดที่ 108.76 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
น้ำมันดิบทั้งสองสัญญาขยับขึ้นราวๆ 2.50 ดอลลาร์เมื่อวันพุธ (18) หลังกระทรวงพลังงานสหรัฐฯรายงานสต๊อกน้ำมันดิบสำรองลดลงมากกว่าที่คาดหมายไว้ บ่งชี้ถึงอุปสงค์ทางพลังงานที่แข็งแกร่งในชาติผู้บริโภครายใหญ่ ขณะเดียวกันราคาน้ำมันยังได้แรงหนุน หลังเฟดสร้างความประหลาดใจด้วยการคงระดับโครงการเข้าซื้อพันธบัตรไว้ที่เดือนละ 85,000 ล้านดอลลาร์่
อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันพฤหัสบดี (19) ขยับลง เป็นผลจากสัญญาณความตึงเครียดที่ผ่อนคลายลงในตะวันออกกลาง ภูมิภาคผู้ส่งออกสำคัญ หลัง นายฮัสซัน โรฮานี ประธานาธิบดีคนใหม่ของอิหร่าน แม้จะให้คำจำกัดความ อิสราเอล ว่าเป็นผู้รุกรานที่นำพาความไม่เสถียรภาพมาสู่ตะวันออกกลาง แต่ก็ระบุว่าชาติของเขาจะไม่แสวงหาสงครามกับชาติใดๆ
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯวานนี้ (19) หยุดชะงักและปิดลบในกรอบแคบๆ ขณะที่นักลงทุนพยายามหาความชัดเจนถึงย่างก้าวต่อไปของธนาคารกลางอเมริกา (เฟด) หลังตัดสินใจคงระดับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจไว้ตามเดิม
ดัชนีดาวโจนส์ ลดลง 40.39 จุด (0.26 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 15,636.55 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 3.18 จุด (0.18 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,722.34 จุด แนสแดก เพิ่มขึ้น 5.74 จุด (0.15 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 3,789.38 จุด
นักลงทุนเผชิญคำถามใหม่หลังเฟดคงระดับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ อาทิ ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเป็นการส่งสัญญาณว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯอ่อนแอกว่าที่คาดไว้ก่อนหน้านี้หรือไม่ หรือเป็นเพราะว่าเฟดมีความกังวลต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจในอนาคตมากกว่าวอลล์สตรีท ซึ่งเหล่านี้เองในคำแถลงเมื่อวันพุธ(18) นายเบน เบอร์นันกี ประธานเฟดไม่ได้ให้ความชัดเจนใดๆ
อย่างไรก็ตามด้วยการที่เฟดยังเดินหน้ากระตุ้นเศรษฐกิจในระดับเดิมต่อไป ก็ส่งผลให้ราคาทองคำวานนี้ (19) พุ่งขึ้นแรง โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 61.70 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,369.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์
