xs
xsm
sm
md
lg

ไขปมชีวิตมือปืนกราดยิงฐานทัพUSเข้าวัดไทยนับถือพุทธ-แต่แอบแฝงก้าวร้าว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online





เอเจนซีส์ - แอรอน อเล็กซิส ผู้ต้องสงสัยว่าเป็นผู้กราดยิงสังหารผู้คนสิบกว่าศพในฐานทัพเรือสหรัฐฯที่กรุงวอชิงตันเมื่อวันจันทร์ (16 ก.ย.) ดูจะเป็นกรณีศึกษาชั้นดีของผู้มีพฤติกรรมขัดแย้งกันอยู่ในตัวเอง เนื่องจากแม้คนรอบข้างออกปากว่า อดีตทหารกองหนุน พนักงานสัญญาจ้างกระทรวงกลาโหม ผู้ชื่นชอบวัฒนธรรมไทยและเรียนสวดมนตร์ศึกษาปฏิบัติธรรมที่วัดไทย ตลอดจนลงทะเบียนเป็นนักศึกษาวิชาอวกาศทางออนไลน์ผู้นี้ เป็นคนดีมากคนหนึ่ง แต่พ่อบังเกิดเกล้าเผยว่า ลูกชายมีปัญหาในการระงับอารมณ์ ขณะที่แฟ้มตำรวจระบุว่าเขาเคยก่อเหตุมาหลายหนแม้ไม่เคยถูกดำเนินคดีถึงโรงถึงศาล

อเล็กซิส ชาวอเมริกันผิวดำวัย 34 ปี เสียชีวิตระหว่างการยิงต่อสู้กับตำรวจที่ เนวี ยาร์ด วอชิงตัน ภายในฐานทัพเรือใหญ่ซึ่งตั้งอยู่ในนครหลวงของสหรัฐฯ โดยที่ตำรวจยอมรับว่ายังไม่ทราบแรงจูงใจแน่ชัดที่ทำให้เขาบุกเข้าไปกราดยิงในหน่วยงานซ่อมบำรุงของกองทัพเรือ เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 13 รายรวมตัวเขาเอง และบาดเจ็บอีกจำนวนมาก

อเล็กซิสเกิดในนิวยอร์ก เข้ารับราชการเป็นทหารเรือระหว่างปี 2007-2011 โดยนายทหารคนหนึ่งที่ไม่ประสงค์เปิดเผยตัวตนบอกว่า อเล็กซิสทำผิดวินัยอยู่เป็นประจำ แต่ไม่ทราบว่าถูกปลดออกเพราะประพฤติเสื่อมเสียหรือไม่

อย่างไรก็ดี ประวัติของอเล็กซิสขาวสะอาดเพียงพอที่จะได้รับการว่าจ้างจากกิจการซึ่งใช้ชื่อว่า “ดิ เอ็กซ์เปิร์ต” ผู้รับช่วงสัญญารับเหมาของบริษัทในเครือเอชพี ในการทำงานยกระดับปรับปรุงเครื่องมืออุปกรณ์ซึ่งใช้ในระบบอินทราเน็ตของกองทัพเรือและกองทัพนาวิกโยธินสหรัฐฯ
แอรอน อเล็กซิส (ภาพเล็ก) ผู้ต้องสงสัยว่าเป็นผู้กราดยิงสังหารผู้คนสิบกว่าศพในฐานทัพเรือสหรัฐฯที่กรุงวอชิงตันเมื่อวันจันทร์ (16 ก.ย.)
ย้อนกลับไปก่อนที่จะสมัครเป็นทหาร 3 ปี อเล็กซิสเคยถูกจับหลังจากยิงยางรถยนต์ที่จอดอยู่ใกล้บ้านยายในเมืองซีแอตเติล เพราะไม่พอใจที่คนงานก่อสร้าง “ดูถูกตน” เขาบอกตำรวจว่า จำไม่ได้ว่ากระทำเรื่องดังกล่าวจนกระทั่งหนึ่งชั่วโมงหลังจากนั้น และอธิบายว่า เขาอยู่ในนิวยอร์กขณะเกิดวินาศกรรม 11 กันยายน 2001 และ “เหตุการณ์เหล่านั้นรบกวนจิตใจเขาอย่างมาก”

ต่อมา พ่อของเขาบอกกับเจ้าหน้าที่สืบสวนว่า ลูกชายมีปัญหาในการควบคุมความโกรธซึ่งเป็นอาการของโรคเครียดภายหลังจากประสบเหตุร้ายแรง และเล่าว่า อเล็กซิสเข้าร่วมปฏิบัติการกู้ภัยในเหตุวินาศกรรม 911 อย่างกระตือรือร้น

อเล็กซิสไม่เคยได้รับโทษจากการกระทำในอดีต เนื่องจากเรื่องไม่เคยถึงมืออัยการแม้แต่ครั้งเดียว

เจ. สิรัน (J. Sirun) ผู้ช่วยดูแลพระสงฆ์ที่วัดพุทธไทยชื่อ วัดบุศย์ธรรมวนาราม เมืองฟอร์ตเวิร์ธ มลรัฐเทกซัส ซึ่งอเล็กซิสไปสวดมนตร์และฝึกปฏิบัติอยู่บ่อยๆ บอกว่า ดูภายนอกแล้วอเล็กซิสเป็นคนเงียบขรึม "แต่ภายในผมว่าเขาก้าวร้าวมาก เขาไม่ยอมใกล้ชิดสนิทสนมกับใคร ซึ่งเป็นลักษณะของทหารที่เคยผ่านสงครามมา”

ขณะที่เขาเป็นคนมีเมตตาซึ่งพร้อมช่วยเหลือคนอื่นๆ แบกขนสิ่งของหนักๆ ภายในวัดซึ่งมีศูนย์อบรมสมาธิแห่งนี้ ทว่า เจ. สิรัน บอกกับหนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ว่า มีคนที่คอยหลีกเลี่ยงไม่ค่อยอยากเจอกับเขานัก เนื่องจากเขาดูเป็นคนที่มีบาดแผลทางจิตใจชวนให้อึดอัด

“ผมไม่คิดว่าเขาจะสามารถทำเรื่องรุนแรงอย่างนี้ได้” เจ. สิรัน กล่าว “ผมจะไม่รู้สึกประหลาดใจเลยถ้าได้ยินว่าเขาฆ่าตัวตาย แต่ผมไม่คิดหรอกว่าเขาจะสามารถฆ่าคนอื่นได้”

ทางด้าน ไท ไทยรินทร์ (Ty Thairintr) ผู้เข้าไปร่วมกิจกรรมของวัดบุศย์ธรรมวนารามเป็นประจำคนหนึ่ง บอกว่า “พวกเราต่างรู้สึกช็อก พวกเราเป็นพวกถือหลักอสิงหาไม่นิยมความรุนแรง แอรอนเป็นพุทธศาสนิกชนที่ดีมาก เขาสามารถสวดมนตร์ได้ดีกว่าคนไทยที่เข้าวัดบางคนเสียอีก”
เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวอกมาจุดเทียนไว้อาลัยแก่เหยื่อกราดยิงที่ฐานทัพเรือ
ไท กล่าวว่า อเล็กซิสได้บอกเขาว่ารู้สึกเบื่อหน่ายผิดหวังกับกองทัพเรือ เพราะคิดว่าเขาไม่ได้รับการเลื่อนตำแหน่งเนื่องจากสีผิว เขาจึงเกลียดผู้บังคับบัญชาของเขา

ตามที่ ไท และคนอื่นๆ ในวัดเข้าใจนั้น แอรอนได้งานเป็นผู้ทำงานตามสัญญาจ้าง และได้บอกกล่าวกับพวกเขาว่ากำลังจะเดินทางไปเวอร์จิเนีย โดยที่ ไท ได้พบกับแอรอนครั้งสุดท้ายเมื่อ 5 สัปดาห์ก่อน

“เขาเป็นชาวพุทธที่เคร่งครัดมาก ไม่มีสัญญาณบอกเหตุใดๆ เลยเกี่ยวกับพฤติกรรมในคราวนี้”

เช่นเดียวกับ นัทพิสิทธิ์ สุธรรมเทวกุล (Nutpisit Suthamtewakul) เจ้าของร้านแฮปปี้ โบล์ว ซึ่งเป็นร้านอาหารไทยในฟอร์ตเวิร์ธที่อเล็กซิสเข้าทำงานหลังปลดประจำการ ที่ไม่เชื่อว่า อเล็กซิสจะก่อเหตุรุนแรง เพราะแม้มีปืนและเคยบ่นว่า ถูกเลือกปฏิบัติ แต่เขาไม่เคยแสดงความก้าวร้าวให้เห็น

เขาเล่าว่า อเล็กซิสพำนักอยู่กับเขาและภรรยาในเมืองฟอร์ตเวิร์ธ ตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2012 จนถึงเดือนพฤษภาคม 2013 ทว่าต้องแยกจากกันหลังจากที่มีบิลเรียกเงินต่างๆ ส่งถึงเขาแล้วเขาไม่จ่าย

นัทพิสิทธิ์ยังบอกว่า อเล็กซิสหันมานับถือศาสนาพุทธและไปสวดมนตร์ที่วัดในท้องถิ่นเป็นประจำ

ทางด้าน แอฟตัน แบรดลีย์ เพื่อนร่วมงานที่ร้านอาหารไทยดังกล่าวเล่าว่า อเล็กซิสเคยมาเมืองไทยและชื่นชมวัฒนธรรมไทย กระทั่งเรียนภาษาไทยจนสามารถพูดกับลูกค้าคนไทยเป็นภาษาไทยได้

“เขาเป็นคนดีมาก ผมไม่คิดเลยว่า จะเกิดเรื่องเลวร้ายแบบนี้”

ศรีสาน (Srisan) อดีตเจ้าของห้องเช่าที่อเล็กซิสเคยพำนัก ซึ่งก็เป็นผู้ที่ไปวัดพุทธแห่งนั้นบ่อยๆ บอกกับหนังสือพิมพ์สตาร์เทเลแกรมว่า เขาเองก็ตื่นตะลึงกับข่าวนี้ เพราะไม่เคยเห็นอเล็กซิสโกรธเกรี้ยวอะไรเลย

“ผมไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเกิดเรื่องอย่างนี้ขึ้น” เขากล่าว “เขาสุภาพมากกับผมมาโดยตลอด”
ภาพของนายแอรอน อเล็กซิส ที่ถ่ายโดยคริสตี คินาร์ด สุธรรมเทวกุล
ทางด้าน ไมเคิล ริตาวาโต เพื่อนของอเล็กซิสเล่าว่า ครั้งเดียวที่ดูเหมือนมีปัญหาคือเมื่อ 2-3 เดือนก่อนที่อเล็กซิสบ่นว่า ไม่ได้ค่าจ้างจากการทำงานตามสัญญาจ้างชิ้นหนึ่งในญี่ปุ่น นอกจากนี้ อเล็กซิสยังชอบเก็บตัวอยู่ในห้องและเล่นวิดีโอเกมที่เน้นความรุนแรง

ตอนที่รับราชการในกองทัพเรือ ส่วนใหญ่แล้ว อเล็กซิสทำงานในส่วนงานซ่อมบำรุงในฟอร์ตเวิร์ธ และตำแหน่งสุดท้ายก่อนปลดประจำการคือช่างไฟฟ้าการบินยศจ่าตรี เขาเคยได้รับเหรียญตราแบบสามัญทั่วไป 2 ครั้ง

จากรายงานของตำรวจ เหตุการณ์ยิงยางรถยนต์ที่เกิดขึ้นในซีแอตเติล ไม่ใช่ครั้งเดียวที่อเล็กซิสมีปัญหาการละเมิดกฎหมาย

เดือนกันยายน 2012 ตำรวจฟอร์ตเวิร์ธสอบปากคำอเล็กซิส ภายหลังได้รับแจ้งความจากเพื่อนร่วมอพาร์ตเมนท์ โดยอเล็กซิสยอมรับว่าทำปืนลั่นขณะทำความสะอาด แต่ที่ไม่แจ้งตำรวจเพราะไม่รู้ว่า กระสุนทะลุเพดานขึ้นไปบนห้องที่อยู่ชั้นบน ขณะที่หญิงที่เป็นเจ้าของห้องดังกล่าวบอกตำรวจว่า กลัวอเล็กซิสและคิดว่าเขาตั้งใจยิงเพราะก่อนหน้านั้นเขาต่อว่าเธอว่าทำเสียงดัง

ตำรวจควบคุมตัวอเล็กซิสไว้ฐานทำปืนลั่นโดยประมาท แต่ก็ไม่ถึงขั้นตั้งข้อหาอย่างเป็นทางการเนื่องจากเชื่อว่าเป็นอุบัติเหตุ

อนึ่ง ภายหลังเกิดเหตุร้ายคราวนี้แล้ว มหาวิทยาลัยเอ็มบรี-ริดเดิล แอโรนอติคัล ที่เปิดสอนวิชาการบินและอวกาศทางออนไลน์ ได้แถลงยืนยันว่า อเล็กซิสลงทะเบียนผ่านวิทยาเขตในฟอร์ตเวิร์ธ และเริ่มเรียนระดับปริญญาตรีสาขาวิทยาศาสตร์อวกาศตั้งแต่กลางปีที่แล้ว
กำลังโหลดความคิดเห็น