เอเอฟพี – สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือชั้นนำ สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ส (S&P) และมูดีส์ (Moody’s) ยังคงเรตติ้งออสเตรเลียไว้ที่ระดับสูงสุด “ทริปเปิลเอ” แม้พรรครัฐบาลของ เควิน รัดด์ จะเพิ่งพ่ายศึกเลือกตั้ง และเปิดทางให้ โทนี แอบบ็อตต์ ผู้นำแนวร่วมพรรคฝ่ายค้าน “ลิเบอรัล-เนชันแนล ปาร์ตี” ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของเมืองจิงโจ้ก็ตาม โดยชี้ว่าการเปลี่ยนขั้วอำนาจครั้งนี้ไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อกรอบงบประมาณของประเทศมากนัก
“เรตติ้งของออสเตรเลียสะท้อนถึงความยืดหยุ่นด้านงบประมาณและการเงินของประเทศ, ความยืดหยุ่นทางเศรษฐกิจ ตลอดจนเสถียรภาพด้านนโยบายสาธารณะ” ถ้อยแถลงจาก เอสแอนด์พี ระบุ
“เราเชื่อว่ารัฐบาลชุดใหม่คงจะใช้ยุทธศาสตร์ด้านงบประมาณที่ไม่แตกต่างไปจากเดิมนัก คือ มุ่งเน้นที่การลดยอดขาดดุลงบประมาณ”
ด้าน มูดีส์ ก็ระบุตรงกันว่า เครดิต AAA ของออสเตรเลียจะไม่ได้รับผลกระทบหลังอำนาจบริหารตกไปสู่มือ โทนี แอบบ็อตต์ ผู้นำแนวร่วมพรรคฝ่ายขวาซึ่งชนะเลือกตั้งเมื่อวันที่ 7 กันยายนที่ผ่านมา ทำให้การบริหารประเทศภายใต้การนำของพรรคแรงงานที่ยืนยาวมาถึง 6 ปีต้องขาดช่วงลง
“เรตติ้ง AAA ที่มูดีส์ให้ต่อรัฐบาลออสเตรเลียมีพื้นฐานมาจากกรอบนโยบายที่ออสเตรเลียใช้มานาน และทำให้งบประมาณมีความสมดุลหรือเกินดุล และรัฐบาลก็มีระดับหนี้สินที่ต่ำกว่าเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ที่เรตติ้งสูง”
เอสแอนด์พี ชี้ว่า งบประมาณที่ แอบบ็อตต์ จะต้องใช้เพื่ออุดหนุนโครงสร้างพื้นฐาน และโครงการจ่ายค่าแรงให้กับพนักงานที่ลาหยุดเพื่อเลี้ยงดูบุตรเกิดใหม่นั้น สามารถนำเงินออมมาชดเชยกันได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีการตัดทอนระบบบริหารหรือนโยบายบางอย่างของรัฐบาลพรรคแรงงานที่เอื้อประโยชน์ต่อครัวเรือน
ออสเตรเลียรอดพ้นจากวิกฤตการเงินโลกเมื่อปี 2008 มาได้โดยที่เศรษฐกิจไม่เข้าสู่ภาวะถดถอย และยังเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศที่ครองเรตติ้ง AAA จากทั้ง 3 สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือหลัก ซึ่งได้แก่ เอสแอนด์พี, มูดีส์ และ ฟิตช์