เอพี - “ไดอานา ไนแอด” สาวใหญ่นักว่ายน้ำผู้ทรหดชาวสหรัฐฯ เดินขึ้นสู่ชายฝั่งคีย์เวสต์เมื่อวันจันทร์ (2) สร้างประวัติศาสตร์กลายเป็นมนุษย์คนแรกที่ว่ายน้ำจากคิวบาสู่ฟลอริดา โดยไม่มีพึ่งพากรงป้องกันฉลาม
ไนแอด มาถึงฝั่งและขึ้นสู่ชายหาดตอนเวลประมาณ 14.00 น. (ตรงกับเมืองไทย 01.00 น.ของวันอังคาร) คิดเป็นเวลาราว 53 ชั่วโมงนับตั้งแต่เธอออกว่ายจากกรุงฮาวานา เมืองหลวงของคิวบาเมื่อวันเสาร์ (31 ส.ค.)
ระหว่างที่เธอว่ายใกล้เข้ามา ผู้ชมก็พากันลงน้ำเข้าไปรุมล้อม บ้างก็ตะโกนส่งเสียงเชียร์เพื่อเป็นกำลังใจและหยิบกล้องขึ้นมาถ่ายภาพเป็นที่ระลึกกันยกใหญ่ และครั้งขึ้นสู่ชายหาดแล้วสาวใหญ่วัย 64 ปี ก็ถูกพาขึ้นเปลคนไข้และได้รับการรักษาพยาบาล ในนั้นรวมถึงการฉีดยาเข้าหลอดเลือด และจากการสังเกตก็พบเห็นริมฝีปากของเธอบวมเป่ง
“ฉันมี 3 ข้อความที่อยากจะบอก” ไนแอด พูดกับฝูงชน “1. คือเราไม่ควรยอมแพ้ 2. คือไม่มีใครแก่เกินไปที่จะไล่ล่าความฝัน และ 3. คือมันอาจดูเหมือนกีฬาประเภทบุคคล แต่มันคือการทำงานเป็นทีม” เธอกล่าวกับฝูงชนที่มารอต้อนรับ
ความสำเร็จครั้งนี้เกิดขึ้นจากความพยายามครั้งที่ 5 ของการว่ายน้ำเป็นระยะทางราวๆ 110 ไมล์ (ประมาณ 176 กิโลเมตร) โดยช่วงระหว่างปี 2011 ถึง 2012 เธอเคยพยายามมาแล้ว 3 ครั้งและอีกครั้งต้องย้อนกลับไปในปี 1978 แต่ก็ประสบความล้มเหลวทั้งหมด
ครั้งสุดท้ายก่อนหน้าน้อยต้องถูกยกเลิกกลางคันจากปัญหาเรือ พายุ คลื่นลมทะเลที่ไม่เอื้ออำนวยและโดนเงี่ยงปลากะพรุน จนใบหน้าบวมเป่ง “ฉันเหลือแค่ระยะทางในมหาสมุทรแค่ 2 ไมล์ (3.2กิโลเมตร)” ไนแอด บอกกับมีทีมช่วยเหลือ 32 คน ซึ่งประกอบด้วยนักพยากรณ์อากาศและทีมแพทย์ขณะที่อยู่ในน้ำ “นี่คือสิ่งที่ฉันฝันมาตลอดชีวิตและฉันรู้สึกยินดีมากที่มีพวกคุณคอยช่วยเหลือ”
คณะแพทย์ที่ติดตามซึ่งอยู่บนเรือสนับสนุน รายงานมาก่อนหน้านี้ในตอนเช้าวันจันทร์ (2) ลิ้นและริมฝีปากของเธอบวมมากทำให้ออกเสียงไม่ชัดและยอมรับรู้สึกกังวลกับปัญหาการหายใจของเธอ แต่ก็ไม่ได้มีการเข้าแทรกแซงใดๆ
เส้นทางการทุบสถิติของไนแอด เริ่มต้นในตอนเช้าของวันเสาร์ (31 ส.ค.) เมื่อเธอซึ่งสวมหน้ากากซิลิโคลนเพื่อป้องกันถูกเงี่ยงปลากะพรุนทิ่ม กระโจนลงจากกำแพงกั้นน้ำทะเลของเฮมิงเวย์ มารินา ลงสู่น้ำอุ่นนอกชายฝั่งฮาวานาเพื่อมุ่งหน้าสู่ฟลอริดา โดยระหว่างทางมีการหยุดพักกินอาหารเป็๋นช่วงๆ
ในความพยายามหนล่าสุด ตอนช่วงกลางคืน เธอจะเปลี่ยนไปสวมชุดว่ายน้ำบอดี้สูท ถุงมือ รองเท้าสำหรับว่ายน้ำและหน้ากากเพื่อรับมือกับสภาพอากาศที่เลวร้าย โดยก่อนลงน้ำทำลายสถิติ เธอยอมรับว่าชุดนี้อาจทำให้เธอว่ายน้ำช้าลง แต่ก็เชื่อว่ามันจะทำประโยชน์ได้อย่างมาก
ทั้งนี้ ทีมสนับสนุนที่เดินทางไปพร้อมๆกับไนแอด มีอุปกรณ์ก่อกำเนิดสนามไฟฟ้าแบบเจือจางรอบๆ ตัวเธอ ซึ่งออกแบบมาเพื่อกันฉลามให้อยู่ห่างออกไป ขณะเดียวกันก็จะมีเรือลำหนึ่งคอยลากแนวในน้ำเพื่อช่วยให้เธอไม่ว่ายหลุดจากเส้นทาง
ในปี 1997 นักว่ายน้ำชาวออสเตรเลีย ซูซี มาโรนีย์ ประสบความสำเร็จในการว่ายน้ำข้ามช่องแคบฟลอริดา แต่ต้องใช้กรงป้องกันฉลาม ส่วนในปี 2012 เพนนี พัลเฟรย์ นักว่ายน้ำออสเตรเลียเชื้อสายอังกฤษ ก็พยายามว่ายน้ำไปยังฟลอริดา โดยไม่มีกรงป้องกันฉลามเช่นกัน แต่ก็ต้องล้มเลิกกลางคันเพราะเจอกับกระแสน้ำรุนแรง และเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา นักว่ายน้ำออสเตรเลียอีกคนหนึ่ง คือโคลเอ แม็คดาร์เดล ก็ใช้ความพยายามแบบเดียวกัน แต่หลังจากว่ายไปได้ 11 ชั่วโมง เป็นระยะทาง 14 ไมล์ (22 กิโลเมตร) ก็ต้องเลิกเพราะถูกแมงกะพรุนต่อย