เอเอฟพี – กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯสั่งเคลื่อนกำลังพลเข้าประชิดซีเรีย และพร้อมตอบสนองได้ทันทีหากประธานาธิบดี บารัค โอบามา มีคำสั่งโจมตี รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯเผยวานนี้(23)
ชัค เฮเกล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ เผยต่อผู้สื่อข่าวบนเครื่องบินขณะเดินทางไปเยือนมาเลเซียว่า กระทรวงกลาโหมได้เตรียม “ทางเลือก” หลายประการไว้ให้ โอบามา ในกรณีที่ผู้นำสหรัฐฯเห็นควรส่งกำลังเข้าโจมตีดามัสกัส หลังมีกระแสข่าวว่ารัฐบาลประธานาธิบดี บาชาร์ อัล-อัสซาด นำอาวุธเคมีออกมาสังหารประชาชนไปนับพันศพ เมื่อวันพุธ(21)
อย่างไรก็ดี เฮเกล ปฏิเสธที่จะให้รายละเอียดเกี่ยวกับที่ตั้งของกำลังพล และอาวุธยุทโธปกรณ์ที่สหรัฐฯอาจจะใช้แทรกแซงสงครามกลางเมืองซีเรีย
“กระทรวงกลาโหมมีหน้าที่เสนอทางเลือกแก่ประธานาธิบดีเมื่อเกิดสถานการณ์คับขัน” เฮเกล ระบุ
ขณะเดียวกันก็มีรายงานว่า กองทัพเรือสหรัฐฯเตรียมเสริมกำลังพลในแถบทะเลเมดิเตอร์เรเนียนด้วยเรือรบลำที่ 4 และขีปนาวุธแบบร่อน
กองเรือที่ 6 ของสหรัฐฯ ซึ่งประจำการอยู่ในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ตัดสินใจให้เรือ ยูเอสเอส มาฮาน ปฏิบัติภารกิจในน่านน้ำแถบนั้นต่อไป แทนที่จะส่งกลับไปยังท่าเรือเมืองนอร์ฟอล์ก รัฐเวอร์จิเนีย ส่วนเรือพิฆาตอีก 3 ลำคือ ยูเอสเอส เกรฟลี, ยูเอสเอส บาร์รี และ ยูเอสเอส แรมเมจ ก็ยังประจำการอยู่เช่นเดิม โดยเรือทั้ง 4 ลำล้วนติดขีปนาวุธแบบร่อน “โทมาฮอว์ก” จำนวนหลายสิบลูก
การเสริมกำลังรบครั้งนี้จะช่วยให้เพนตากอนตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว หาก โอบามา มีคำสั่งโจมตีซีเรีย
อย่างไรก็ตาม เฮเกล และเจ้าหน้าที่เพนตากอนยืนยันว่า ขณะนี้กองทัพยังไม่ได้รับคำสั่งให้โจมตีระบอบอัสซาด
สื่ออเมริกันหลายฉบับชี้ว่า ผู้นำในรัฐบาลต่างกำลังถกเถียงเรื่องความเสี่ยง หากวอชิงตันจะส่งทหารเข้าแทรกแซงการเมืองในตะวันออกกลางอีกครั้ง
เฮเกล ซึ่งไปเยี่ยมฐานทัพนาวิกโยธินในรัฐฮาวายเมื่อวันพฤหัสบดี(22) ก่อนจะเริ่มภารกิจเยือนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นเวลา 1 สัปดาห์ ชี้ว่า หน่วยข่าวกรองอเมริกันคงจะหาคำตอบได้อย่างรวดเร็วว่ารัฐบาลอัสซาดใช้สารเคมีทำลายระบบประสาทจริงหรือไม่
“ประชาคมโลกควรจะร่วมแรงร่วมใจกันตอบสนองต่อสถานการณ์เช่นนี้” เขากล่าว