xs
xsm
sm
md
lg

ต้องร่วม “ทุกข์” และร่วมสุข “งานแต่ง” ยูเครนทำคนหลายร้อยถูกหามส่ง “รพ.” ทุกปี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เอพี - วันนี้ควรจะเป็นวันที่เธอมีความสุขมากที่สุดในชีวิต แต่แทนที่จะเป็นเช่นนั้นงานแต่งของยูเลีย ยูคิมเมทส์ กลับจบลงด้วยการที่เธอถูกส่งไปโรงพยาบาลอย่างอ่อนเพลีย ซีดเซียว และตัวบิดงอ พร้อมกันกับแขกเหรื่อในงานอีกเกือบ 60 คน

“ฉันรอคอยงานนี้มาโดยตลอด แต่ดูสิว่ามันจบลงยังไง” ยูคิมเมทส์ วัย 20 ปี สาวน้อยรูปร่างผอมบาง และผมบลอนด์กล่าวในเดือนนี้ (ส.ค.) ที่โรงพยาบาลในเมืองรูซิน ซึ่งส่งรถพยาบาลมารับตัวเธอจากหมู่บ้านที่อยู่ใกล้เคียง

ทุกๆ ปี คู่แต่งงานใหม่ชาวยูเครนหลายร้อยคู่และแขกในงานจะต้องเข้ารับการรักษาตัว เพราะมีอาการอาหารเป็นพิษจากงานเลี้ยงแต่งงาน พวกเขาเหล่านี้เป็นเหยื่อของประเพณียูเครนที่จะเชื่อกันว่าต้องจัดงานเลี้ยงใหญ่ๆ ซึ่งทำให้ต้องทำอาหารเลี้ยงบรรดาแขกเหรื่อให้มากเกินกว่าปริมาณที่พวกเขากินไหว และมากเกินกว่าที่เจ้าภาพจะจัดเตรียมได้อย่างปลอดภัย บ่อยที่สุดที่คนในงานมีอาการอาหารเป็นพิษเพราะอาหารทำเองที่ใช้เลี้ยงแขกในงานแต่งของหมู่บ้านไม่ได้ถูกนำไปเข้าตู้เย็นให้ถูกต้องเหมาะสมหลังจากปรุงเสร็จแล้ว ขณะที่ต้องใช้เวลาเทำอาหารหลายวันเพื่อให้พอเลี้ยงคนจำนวนมากที่จะมาในงาน

หลายๆ วัฒนธรรมต่างชื่นชอบงานแต่งที่ใหญ่โต แต่งานแต่งตามประเพณีหมู่บ้านในยูเครนนั้นไม่ได้ต่างอะไรกับพิธีศักดิ์สิทธิ์ ที่ต้องเชื้อเชิญคนจากทั้งชุมชนมาที่ร่วมโต๊ะที่อัดแน่นไปด้วยอาหารนานาชนิด พร้อมกับร้องเพลง เต้นรำ และเฉลิมฉลองเป็นเวลาเวลานานหลายวัน

โอลีนา เชอร์บาน ผู้เชี่ยวชาญด้านชาติพันธุ์ กล่าวว่าในวัฒนธรรมพื้นบ้าน งานแต่งงานถูกพิจารณาว่าเป็นหนึ่งในสามเหตุการณ์ที่มีความสำคัญอย่างยิ่งยวดในชีวิตของคนเราเท่าๆ กับการเกิดและการตาย และเป็นโอกาสที่ชุมชนจะได้มาร่วมอวยพรให้ครอบครัวใหม่อย่างเป็นทางการ
ยูเลีย ยูคิมเมทส์ เจ้าสาว
คำในภาษายูเครนที่ตรงกับคำว่า “งานแต่งงาน” มากที่สุด คือ “เวสซิลยา” (Vesillya) ซึ่งมาจากคำว่า “ความสนุกสนาน” และ “ความปีติยินดี” และเชื่อกันมากว่า ยิ่งงานแต่งใหญ่เท่าไร ชีวิตแต่งงานก็จะยิ่งมีความสุขมากเท่านั้น

และนั่นคือสิ่งที่คาดหวังกันว่าจะบังเกิดขึ้นในงานแต่งงานของยูคิมเมทส์

ภายหลังจากการจดทะเบียนสมรสซึ่งเป็นพิธีการทางกฎหมายแล้ว ปาร์ตีงานแต่งวันแรกนั้นถูกจัดขึ้นที่บ้านเจ้าสาวในเนมีรินทซี หมู่บ้านขนาดเล็กในภาคกลางของยูเครน ซึ่งล้อมรอบไปด้วยไร่ข้าวโพดและทุ่งดอกทานตะวัน มีการกางเต็นท์ขนาดใหญ่ในสวนของครอบครัวยูคิมเมทส์ และมีแขกราว 150 คนนั่งดื่มอวยพรให้เจ้าสาว ซึ่งเป็นอาจารย์สอนโรงเรียนประถม และเจ้าบ่าววัย 29 ปี ที่เป็นพนักงานขายโทรศัพท์มือถือ

วาเลนตินา ฮราบชาค แม่ของยูเลีย เป็นผู้รับหน้าที่เนรมิตงานที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวในชีวิตนี้ งานที่ธรรมเนียมท้องถิ่นระบุว่าต้องจัดอย่างน้อย 3 วันและต้องมีกับข้าวกับปลาอย่างน้อย 35 จานโดยยังไม่นับรวมของหวาน

เธอเชือดหมูที่เลี้ยงไว้หนึ่งตัวล่วงหน้าก่อนงานแต่ง 2 วัน และรวบรวมบรรดาเพื่อนผู้หญิง 20 คนเพื่อมาช่วยเตรียมการ พวกเธอทั้งหมดร่วมกันจัดงานแต่งขนาดมหึมาขึ้นมา ซึ่งเต็มไปด้วยอาหารที่ทำเองเป็นต้นว่า พายเนื้อ พาสต้า กะหล่ำปลีม้วนยัดไส้ ปอเปี๊ยะไส้เนื้อสัตว์ สลัด ปีกไก่ ขนมปัง 12 แถว สเต็กทอด ปลารมควัน แพนเค้ก และอื่นๆ อีกมากมาย
เพื่อนเจ้าสาวคนหนึ่งกำลังสำรวจสถานที่ที่เคยมีการจัดเลี้ยง
อาหารมีรสชาติอร่อยและงานเลี้ยงก็สนุกสนาน ทั้งยังสมบูรณ์แบบด้วยการแข่งขันกินมะนาว เพลงท้องถิ่นของยูเครน และการเต้นรำในงานแต่ง วันต่อมายูเลียและโอเล็กแซนด์เข้าพิธีแต่งงานในโบสถ์ จากนั้นก็จัดงานฉลองกันต่อที่บ้านเจ้าบ่าว ทว่าเมื่อถึงเวลาบ่าย คนจำนวนมากเริ่มรู้สึกไม่สบาย เริ่มแรกพวกเขาตั้งข้อสังเกตว่าอาจเป็นเพราะพวกผู้ชายดื่ม “ฮอริลกา” หรือวอดก้ายูเครนมากเกินไป แต่ภายหลังที่เจ้าสาว แขก และแม้กระทั่งนักดนตรีเริ่มเป็นไข้ ปวดท้อง อาเจียน และท้องเสีย ก็เริ่มเป็นที่แน่ชัดแล้วว่าต้องมีสาเหตุมาจากอย่างอื่น

ยูเลียถูกส่งตรงไปยังโรงพยาบาลโรซินเซ็นทรัลดิสตริกขณะอยู่ในชุดนอน ซึ่งเพิ่งเปลี่ยนจากชุดแต่งงาน เธอและคนอื่นๆ ได้รับการรักษาด้วยการให้ยาปฏิชีวนะ และการฉีดยาเข้าเส้นเลือด นอกจากนี้ยังมีบางคนที่มีอาการแย่มากจนต้องใช้เปลหามเพื่อพาเข้าห้องฉุกเฉิน ในหมู่คนเหล่านี้มีเด็กชายวัย 2 ขวบคนหนึ่ง และผู้ล้มป่วย 14 คนทีเดียวเป็นเด็ก

โมโกลา โซซัลยา หัวหน้าแพทย์ของโรงพยาบาลแห่งนี้ กล่าวว่ารายงานผลจากห้องวิจัยชี้ว่าสาเหตุของอาการป่วยครั้งนี้มาจากเชื้อแซลโมเนลลา เขาต่อต้านงานแต่งงานแบบใหญ่โตเช่นนี้ โดยกล่าวว่าการประกอบอาหารและบริโภคอาหารในปริมาณที่มากเกินไปนั้นเป็นอันตรายต่อสุขภาพ เขาชี้ว่าสภาวะจิตใจของคนยูเครนนั้นอยากเห็นโต๊ะอาหารพังทลายลงไปเพราะน้ำหนักของอาหารตรงหน้า

กระทรวงสาธารณสุขยูเครน กล่าวว่าไม่มีการเก็บข้อมูลทางสถิติในเรื่องผู้ป่วยที่มีอาการอาหารเป็นพิษในงานแต่งงาน แต่พบเหตุการณ์เช่นนี้ได้บ่อย โดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อน ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่คนนิยมจัดงานแต่งงาน

“เราไม่ได้เป็นคนคิดประเพณีเหล่านี้ บรรพบุรุษของเราต่างหาก” สวิตลานา ยูคิมเมทส์ ผู้ดื่มอวยพรของงานแต่งงานกล่าว “เราจึงพยายามสืบทอดประเพณีนี้เอาไว้”




กำลังโหลดความคิดเห็น