รอยเตอร์/เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - ชาวรัสเซียมากกว่า 100,000 คน อาจต้องถูกอพยพออกจากบ้านเรือนของตนที่อยู่ไม่ไกลจากพรมแดนจีน หากสถานการณ์อุทกภัยที่เลวร้ายที่สุดในรอบ 120 ปี ของพื้นที่แถบตะวันออกไกลของรัสเซียเลวร้ายลง
เหตุน้ำท่วมครั้งใหญ่ที่เกิดจากฝนที่ตกลงมาอย่างหนักและต่อเนื่องนานกว่า 1 เดือนส่งผลให้มีประชาชนจากเขตอามูร์, คาบารอฟส์ก และเขตปกครองตนเองของชาวยิว จำนวนรวมกันกว่า 170,000 คนต้องถูกสั่งให้อพยพออกนอกพื้นที่ไปแล้วก่อนหน้านี้
แต่หากการคาดการณ์ของทางการรัสเซียที่ว่าอาจมีฝนตกหนักต่อเนื่องไปจนถึงช่วงต้นเดือนกันยายนเป็นความจริง ก็อาจส่งผลทำให้ประชาชนอีกมากกว่า 100,000 คนต้องถูกอพยพออกจากพื้นที่แถบตะวันออกไกลของรัสเซียเช่นกัน
ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ผู้นำรัสเซียกล่าวผ่านการถ่ายทอดทางโทรทัศน์ไปทั่วประเทศโดยระบุว่า ความเสียหายที่เกิดจากอุทกภัยครั้งนี้ใหญ่หลวงนัก แต่ในอีกด้านหนึ่งก็ถือเป็นความสำเร็จอย่างสำคัญเพราะยังไม่มีผู้เสียชีวิตแม้แต่รายเดียวจากภัยพิบัติครั้งนี้
ด้านวิกตอร์ อิชาเยฟ ผู้แทนพิเศษของปูตินประจำภูมิภาคตะวันออกไกลออกมาเปิดเผยว่า เหตุน้ำท่วมครั้งนี้ส่งผลให้พื้นที่ทำการเกษตรกว่า 400,000 เฮกตาร์ต้องจมอยู่ใต้น้ำ
ขณะที่มูลค่าความเสียหายทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นอาจสูงเกินกว่า 2,000 ล้านรูเบิล (ราว 1,900 ล้านบาท)
ก่อนหน้านี้เมื่อปีที่แล้ว รัสเซียต้องเผชิญเหตุน้ำท่วมครั้งใหญ่ในเขตเทือกเขาคอเคซัสทางตอนใต้ของประเทศเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 171 ราย และบ้านเรือนประชาชนมากกว่า 4,000 หลังได้รับความเสียหาย
