รอยเตอร์ – ทางการอียิปต์ได้จับกุมแกนนำอิสลามิสต์กว่า 1,000 คน ขณะที่ผู้นำกลุ่มภราดรภาพมุสลิมซึ่งหนุนหลังอดีตประธานาธิบดี โมฮาเหม็ด มอร์ซี ยังเรียกร้องให้มวลชนทั่วประเทศออกมาเดินขบวนต่อต้านรัฐประหารตลอดสัปดาห์หน้า
เหตุนองเลือดซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตไปกว่า 100 คนทั่วอียิปต์เมื่อวานนี้(16) ทำให้แดนไอยคุปต์แทบจะตกอยู่ในสภาวะไร้ขื่อแป ขณะที่สถานการณ์ล่าสุดยังคงตึงเครียด เมื่อเจ้าหน้าที่ความมั่นคงได้เข้าปิดล้อมมัสยิด อัล-ฟัธ ในกรุงไคโร และพยายามหว่านล้อมให้กลุ่มสนับสนุนมอร์ซีที่อยู่ภายในยอมจำนนเสีย
กระทรวงมหาดไทยอียิปต์เปิดเผยว่า ตำรวจได้จับกุมแกนนำภราดรภาพมุสลิม 1,004 คน ฐานมีพฤติกรรมก่อการร้ายในช่วงที่กองกำลังความมั่นคงเข้าสลายการชุมนุมเมื่อวันพุธที่ผ่านมา(14) โดยยอดผู้เสียชีวิตขณะนี้พุ่งสู่หลัก 700 คนแล้ว
ภราดรภาพมุสลิมซึ่งครองอำนาจในอียิปต์มาเป็นเวลา 1 ปีก่อนที่ มอร์ซี จะถูกกองทัพก่อรัฐประหารเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม ยังเรียกร้องให้ผู้สนับสนุนออกมาแสดงพลังบนท้องถนน เพื่อปฏิเสธการฮุบอำนาจของกองทัพ ตลอดจนการใช้กำลังเข่นฆ่าชาวอียิปต์ที่ยังศรัทธาในตัวผู้นำอิสลามิสต์ซึ่งมาจากการเลือกตั้งคนแรกของประเทศ
“การที่พวกเราปฏิเสธรัฐบาลที่มาจากการรัฐประหาร ถือเป็นหน้าที่ต่อศาสนาอิสลาม, ประเทศชาติ และจริยธรรม ที่เราทั้งหลายจะละทิ้งไม่ได้” ถ้อยแถลงจากกลุ่มภราดรภาพ ระบุ
ขณะที่สหรัฐฯและชาติตะวันตกต่างตำหนิกองทัพอียิปต์ที่ใช้ความรุนแรงปราบผู้ชุมนุมจนมีผู้เสียชีวิตหลายร้อย แต่ซาอุดีอาระเบียกลับออกมาแสดงท่าทีหนุนหลังรัฐบาลอียิปต์เต็มที่วานนี้(16) โดยชี้ว่าฝ่ายภราดรภาพมุสลิมต่างหากที่ก่อกวนความมั่นคงของอียิปต์
เหตุรุนแรงปะทุขึ้นทั่วอียิปต์หลังภราดรภาพมุสลิมซึ่งยังมีอิทธิพลอยู่ตามหัวเมืองใหญ่ๆ ได้นัดชุมนุมใน “วันศุกร์แห่งความโกรธแค้น” นำมาสู่การปะทะกับเจ้าหน้าที่จนมีผู้เสียชีวิตราว 50 คนในกรุงไคโร ส่วนที่เมืองอเล็กซานเดรียซึ่งเป็นเมืองใหญ่อันดับสอง ก็มีคนถูกสังหารไปกว่า 20 ราย
ภราดรภาพมุสลิมเรียกร้องให้ผู้สนับสนุนออกมาเดินขบวนรายวันเป็นเวลา 1 สัปดาห์ โดยเริ่มตั้งแต่วันนี้(17)เป็นต้นไป ขณะที่รัฐบาลอียิปต์ชั่วคราวซึ่งได้รับการแต่งตั้งโดยกองทัพก็ปฏิเสธที่จะถอยเช่นกัน และอนุมัติให้ตำรวจใช้กระสุนจริงตอบโต้เพื่อป้องกันตนเองและสถานที่ราชการ