เอเอฟพี/เอเจนซีส์ - เกาหลีใต้วันนี้ (15 ส.ค.) ออกมาเรียกร้องให้เกาหลีเหนือร่วมกันจัดงานวันรวมญาติขึ้นอีกครั้งในรอบ 3 ปี หนึ่งวันหลังจากที่ทั้งสองชาติได้ตกลงที่จะเปิดนิคมอุตสาหกรรมแกซองที่เป็นความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างสองฝ่ายขึ้นอีกครั้ง
ในการกล่าวปราศรัยเนื่องในวาระครบรอบ 68 ปีของวันที่เกาหลี ประกาศเอกราชจากประเทศญี่ปุ่นเมื่อปี 1945 ประธานาธิบดี ปาร์ค กึน-ฮเย ก็กล่าวเรียกร้องให้ผู้นำเปียงยาง “เปิดใจ” และเห็นชอบให้จัดงานให้บรรดาครอบครัวที่ถูกสงครามเกาหลีแบ่งแยกให้ไปอยู่คนละแผ่นดินได้กลับมาอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันอีกครั้งในเดือนหน้า
นอกจากนี้ ผู้นำเกาหลีใต้ยังได้แสดงความยินดีที่ทั้งสองฝ่ายตกลงกันได้เมื่อวานนี้ (14) ในเรื่องการเปิดนิคมแกซอง ซึ่งเธอกล่าวว่าอาจเป็นจุดเริ่มต้นของ “ความสัมพันธ์ระหว่างสองชาติเกาหลีอีกครั้ง” ภายหลังที่เกิดความตึงเครียดสุดขีดในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา
“ดิฉันหวังว่าเกาหลีเหนือจะเปิดใจเพื่อให้เหล่าครอบครัวที่พลัดพรากจากกันได้กลับมาอยู่กันพร้อมหน้าในช่วงวันหยุดชูซ็อก” ปาร์คกล่าว โดยระบุถึงเทศกาลเก็บเกี่ยวตามประเพณีของชาวเกาหลี ซึ่งปีนี้ตรงกับวันที่ 19 กันยายน
ชาวเกาหลีหลายล้านคนต้องพลัดพรากจากกัน เพราะสงครามเกาหลีที่เกิดขึ้นในระหว่างปี 1950 ถึง 1953 ทั้งนี้สภากาชาดเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงสำคัญในการจัดงานรวมญาติครั้งล่าสุดเมื่อปี 2010 ที่เปิดโอกาสให้บรรดาญาติผู้สูงอายุได้พบกัน โดยภายในงานก็มีบรรยากาศแห่งความซาบซึ้งสะเทือนอารมณ์ดังเช่นทุกครั้งที่ผ่านมา
เกาหลีเหนือเมื่อเดือนกรกฎาคมได้ยื่นข้อเสนอให้จัดการพูดคุยหารือกันต่อในเรื่องวันรวมญาติ พร้อมๆ กับการเจรจากันเรื่องนิคมอุตสาหกรรมแกซองในคราวเดียว แต่ก็ได้ถอนข้อเสนอนี้ออกไป หลังจากเกาหลีใต้ยืนยันว่าควรหารือสองเรื่องนี้แยกจากกัน
นิคมอุตสาหกรรมแกซองที่เกาหลีใต้ร่วมลงทุนและก่อตั้งขึ้นบนดินแดนเกาหลีเหนือบริเวณใกล้เส้นพรมแดนเมื่อปี 2004 เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของความร่วมมือระหว่างสองเกาหลีอันไม่ค่อยจะมีกันเลยนั้น ต้องปิดตัวลงเป็นการชั่วคราวในเดือนเมษายนหลังจากที่เคยสามารถฝ่าฟันสภาวะความไม่แน่นอนทางการเมืองของสองชาติเกาหลีมานานหลายปี
รัฐบาลเปียงยางซึ่งโกรธแค้นเกาหลีใต้และสหรัฐฯ ที่จัดการซ้อมรบร่วมกัน หลังจากที่เกาหลีเหนือทดสอบอาวุธนิวเคลียร์เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ได้สั่งถอนคนงานทั้ง 53,000 คนของตนออกจากนิคมแกซอง ทำให้อีกไม่นานเกาหลีใต้ก็ต้องถอนฝ่ายบริหารจัดการบริษัททั้งหมดออกจากพื้นที่ไปด้วย
การเจรจาหารือกัน 6 ครั้ง ตั้งแต่เมื่อเดือนเมษายนต้องสะดุดหยุดลง เมื่อเกาหลีใต้ยืนยันว่าเกาหลีเหนือต้องรับผิดชอบเต็มๆ ต่อวิกฤตแกซองคราวนี้ และต้องรับประกันว่าจะไม่สั่งปิดนิคมแห่งนี้อีก แต่รัฐบาลเปียงยางปฏิเสธไม่ยอมทำตาม
ทว่าจากการทำข้อตกลงร่วมกันเมื่อวานนี้ (14) ได้แสดงให้เห็นถึงความประนีประนอม เนื่องจากเกาหลีเหนือยอมรับว่าการที่ประเทศสั่งถอนคนงานออกทั้งหมดทำให้แกซองต้องปิดตัวลงโดยปริยาย ขณะที่ทั้งสองฝ่ายสัญญากันที่จะสร้างความมั่นใจว่าจะไม่มีการปิดนิคมในอนาคตอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตาม ทั้งสองชาติยังไม่สามารถกำหนดวันที่แน่นอนในการเปิดตัวนิคมแกซองอีกครั้ง และเกาหลีใต้ยังมีท่าทีระมัดระวังในการแถลงข่าวหลังจากที่มีการประกาศข้อตกลงร่วมกัน
“ข้อตกลงนี้ยังไม่ใช่จุดสิ้นสุดแต่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น” คิม คีวุง หัวหน้าคณะเจรจาของเกาหลีใต้กล่าวกับผู้สื่อข่าว
แม้กระนั้น กระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ และบัน คีมุน เลขาธิการองค์การสหประชาชาติก็แสดงท่าทีสนับสนุนข้อตกลงนี้ อีกทั้งนักวิเคราะห์ต่างกล่าวว่ามันจะช่วยปูทางให้มีความร่วมมือกันในด้านอื่นๆ ต่อไป แม้ว่าเกาหลีเหนือจะเคยออกมาขู่คุกคามที่สหรัฐฯ และเกาหลีใต้กำลังจะซ้อมรบร่วมกันครั้งใหม่ก็ตาม