เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์-นักรบฝ่ายกบฏในซีเรียสามารถบุกเข้ายึดหลายหมู่บ้านในจังหวัด “ลาตาเกีย” พื้นที่ที่ถือเป็นศูนย์กลางของชาวมุสลิมนิกายอะลาวิต ซึ่งเป็นฐานเสียงสำคัญของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล อัสซาด
รายงานข่าวระบุว่า ฝ่ายกบฏสามารถเข้ายึดครองหลายพื้นที่ในจังหวดลาตาเกียไว้ได้ หลังมีการสู้รบอย่างหนักกับทหารของฝ่ายรัฐบาลนานติดต่อกันกว่า 48 ชั่วโมง ถือเป็นความสูญเสียครั้งสำคัญของประธานาธิบดีอัสซาดที่พยายามควบคุมจังหวัดแห่งนี้ไว้ให้ได้ เนื่องจากเป็นศูนย์กลางของชาวมุสลิมชีอะห์ นิกายอะลาวิต ซึ่งครอบครัวของผู้นำซีเรียนับถือ
ความสำเร็จในการเข้ายึดพื้นที่ในจังหวัดลาตาเกีย ถือเป็นชัยชนะสำคัญครั้งแรกของฝ่ายกบฏในรอบหลายเดือน หลังจากที่ก่อนหน้านี้ กองกำลังของฝ่ายรัฐบาลเป็นฝ่ายได้เปรียบมาโดยตลอดทั้งในการสู้รบในกรุงดามัสกัส เมืองฮอมส์และเมืองอะเลปโป
ในอีกด้านหนึ่งมีรายงานว่า ฝ่ายกบฏซึ่งได้รับการสนับสนุนด้านอาวุธยุทโธปกรณ์จากซาอุดีอาระเบีย กาตาร์ ตุรกี รวมถึงสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์สามารถยึดสนามบินทหาร“มินนิก” ซึ่งเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์สำคัญที่อยู่บนเส้นทางเชื่อมต่อระหว่างเมืองอะเลปโปของซีเรียกับเมืองกาเซียนเทปในตุรกีเอาไว้ได้ในวันอังคาร (6) แม้ทหารฝ่ายรัฐบาลจะพยายามต้านทานไว้อย่างสุดกำลัง
โดยรายงานข่าวดังกล่าวนี้ถูกเผยแพร่โดยโมฮัมหมัด นูร์ นักเคลื่อนไหวที่เป็นสมาชิกของเครือข่าย “Sham News Network” ที่มีจุดยืนต่อต้านรัฐบาลซีเรีย
ทั้งนี้ ข้อมูลจากองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ระบุว่า มีผู้เสียชีวิตไปแล้วมากกว่า 100,000 คน จากผลของความขัดแย้งและสงครามกลางเมืองที่ดำเนินมานานกว่า 28 เดือนในซีเรีย ขณะที่ชาวซีเรียอีกกว่า 1.7 ล้านคนต้องกลายสภาพเป็นผู้ลี้ภัยที่หนีตายเข้าไปยังประเทศเพื่อนบ้าน