รอยเตอร์ – ชาวตูนิเซียออกมาประท้วงเหตุลอบสังหารผู้นำฝ่ายค้านเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา(25) ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 1 รายและบาดเจ็บอีกหลายสิบคนที่เมืองกาฟซา ทางตอนใต้ของประเทศ
เมื่อช่วงเย็นวันศุกร์(26) สมาชิกพรรคฝ่านค้าน 42 คนประกาศลาออกจากสภาผู้แทนราษฎรตูนิเซีย เพื่อประท้วงการลอบสังหาร โมฮัมเหม็ด บราฮิมี สมาชิกพรรคป๊อบปูลาร์ฟรอนท์ ซึ่งมีแนวคิดนิยมทางโลก
คอมิส คอสซิลา จากพรรคนิดาตุนส์ แถลงต่อสื่อมวลชนว่า ส.ส.ทั้งหมดที่ลาออกจะนั่งประท้วงเพื่อเรียกร้องให้มีการยุบสภาและจัดตั้งรัฐบาลกู้ชาติขึ้น ซึ่งเป็นแนวคิดที่นายกรัฐมนตรี อาลี ลาราเยธ ไม่เห็นด้วย
สภาตูนิเซียซึ่งบัดนี้อยู่ใต้อิทธิพลของนักการเมืองอิสลามิสต์ อยู่ระหว่างการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เพื่อประกาศใช้ในประเทศแอฟริกาเหนือซึ่งมีประชากรราว 11 ล้านคน
ความขัดแย้งระหว่างอิสลามิสต์กับนักการเมืองที่นิยมทางโลกปะทุรุนแรงขึ้น นับตั้งแต่อดีตประธานาธิบดี ซิเน เอล-อาบิดีน เบน อาลี ถูกประชาชนลุกฮือโค่นอำนาจเมื่อปี 2011 ซึ่งถือเป็นชนวนที่นำไปสู่กระแสปฏิวัติประชาธิปไตยในโลกอาหรับ
ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า มอฟตี โมฮาเหม็ด ผู้ประท้วงฝ่ายต่อต้านรัฐบาลเสียชีวิตที่เมืองกาฟซา เมื่อค่ำคืนวันศุกร์(26) แต่สาเหตุการตายนั้นยังไม่ปรากฏชัด นอกจากนี้ยังมีประชาชนถูกยิงด้วยแก๊สน้ำตาจนบาดเจ็บหลายราย
บราฮิมี ซึ่งถูกจ่อยิงถึง 14 นัดเมื่อวันพฤหัสบดี(25) เป็นนักการเมืองสายนิยมทางโลกรายที่ 2 ที่ถูกลอบสังหารอย่างอุกอาจในปีนี้ ถัดจาก ชุกรี เบเลด อดีตผู้นำพรรคป๊อปปูลาร์ฟรอนท์ ซึ่งเสียชีวิตในลักษณะเดียวกัน เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์
ขณะเดียวกัน ประชาชนตูนิเซียซึ่งสนับสนุนกลุ่มอิสลามิสต์ได้ออกมาเดินขบวนในกรุงตูนิส เมื่อวานนี้(26) เพื่อคัดค้านไม่ให้รัฐบาลลาออกเพื่อแสดงความรับผิดชอบกับการตายของ บราฮิมี
