เอเจนซีส์ - เจ้าหน้าที่กู้ภัยของจีนเร่งค้นหาเหยื่อที่ถูกฝังทั้งเป็น หลังเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงสองครั้งซ้อนในเวลาห่างกัน 90 นาทีเมื่อวันจันทร์ (22 ก.ค.) บริเวณมณฑลกานซู ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อยที่สุด 73 คน และบาดเจ็บอีกเกือบ 600 คน
เจ้าหน้าที่สำนักงานแผ่นดินไหวของมณฑลกานซูระบุว่า เกิดแผ่นดินไหวความรุนแรงขนาด 5.9 และ 5.6 ในเขตเมืองติ้งซี เมื่อช่วงเช้าวันจันทร์ (22) รวมทั้งมีอาฟเตอร์ช็อกตามมาถึง 371 ครั้ง ส่งผลให้อาคารกว่า 21,000 หลังเสียหายอย่างหนัก และกว่า 1,200 หลังพังทลายลงมา
ด้านสถานีโทรทัศน์ส่วนกลางของทางการจีน (ซีซีทีวี) รายงานว่า แรงสั่นทะเทือนทำให้แผ่นดินถล่มฝังบ้านที่ปลูกสร้างอย่างหยาบๆ โดยในบริเวณหนึ่งพบผู้ถูกฝังอยู่ถึง 12 คน และผู้อยู่ในเหตุการณ์เล่าว่า ปฏิบัติการกู้ภัยเป็นไปอย่างยากลำบาก
สำนักข่าวซินหวา ของทางการจีนเช่นเดียวกันรายงานว่า เมืองที่อยู่ห่างไกลและเต็มไปด้วยภูเขา 8 เมืองได้รับความเสียหายรุนแรง และเกิดน้ำท่วมและโคลนถล่มตามมา โดยรัฐบาลได้ส่งพนักงานดับเพลิง, ตำรวจ, ทหาร, และเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นเกือบ 3,000 คน ไปยังเขตประสบภัยพิบัติ ทว่าความพยายามในการกู้ภัยกำลังประสบอุปสรรคจากดินถล่มในหลายบริเวณ แถมถนนหลายสายยังคงถูกตัดขาดจากฝนตกหนักในช่วงไม่กี่วันก่อนหน้านี้
รองนายกเทศมนตรีเมืองติ้งซี บอกกับซีซีทีวีว่า เจ้าหน้าที่รีบรุดไปยังที่เกิดเหตุ และพบว่าบ้านที่ปลูกสร้างด้วยอิฐได้รับความเสียหายอย่างหนัก หลายหลังไม่สามารถเข้าพักอาศัยได้แล้ว และสำทับว่า ยังอยู่ระหว่างการประเมินตัวเลขผู้ถูกฝังอยู่ใต้ซากปรักหักพัง
ทางด้านสำนักงานสำรวจทางธรณีวิทยาของสหรัฐฯ (ยูเอสจีเอส) ระบุว่า แผ่นดินไหวครั้งแรกที่เกิดขึ้นเวลา 7.45 น. เวลาท้องถิ่น (ตรงกับ 6.45 น.เวลาเมืองไทย) วัดความแรงได้ 5.9 และศูนย์กลางอยู่ลึกลงไปเพียงแค่ 9.8 กิโลเมตร ส่วนครั้งที่สองที่เกิดขึ้นในบริเวณเดียวกันเวลา 9.12 น. (ตรงกับ 8.12 น. เวลาไทย) มีความแรง 5.6 และศูนย์กลางอยู่ลึกลงไป 10.1 กิโลเมตร
ขณะที่ศูนย์เครือข่ายแผ่นดินไหวของจีนระบุว่า แผ่นดินไหวครั้งแรกมีความรุนแรงถึง 6.6 และสำนักงานแผ่นดินไหวของจีนกล่าวว่า รอยเลื่อนเดียวกันนี้เชื่อมโยงกับเหตุแผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 1654 ที่มีความรุนแรงถึง 8.0
แม้กานซูเป็นหนึ่งในมณฑลที่มีประชากรอาศัยอยู่เบาบางที่สุดของจีน แต่เมืองติ้งซีที่เผชิญแผ่นดินไหวรุนแรงที่สุดนั้น มีประชากรถึง 2.7 ล้านคน
ภาพข่าวทางทีวีเผยให้เห็นถนนในหมู่บ้านชนบทที่เกลื่อนกลาดไปด้วยกองอาคารปรักหักพัง
รัฐบาลท้องถิ่นของติ้งซีรายงานผ่านเว็บไซต์ว่า อาคารในอำเภอจาง ได้ถล่ม 380 หลัง และเสียหายหลายพันหลัง ขณะที่ซินหวารายงานว่า ไฟฟ้าใช้การไม่ได้และระบบสื่อสารถูกตัดขาดใน 13 เมือง นอกจากนั้นแผ่นดินไหวครั้งนี้รู้สึกได้ถึงหลานโจว เมืองหลวงของมณฑลกานซู และไกลไปถึงซีอาน เมืองหลวงของมณฑลส่านซี ที่อยู่ใกล้เคียง
ผู้คนมากมายโพสต์บนไมโครบล็อกยอดนิยมของจีนเพื่อแสดงความห่วงใยต่อผู้ประสบภัย ขณะที่องค์การกาชาด จัดส่งสิ่งของบรรเทาทุกข์ เช่น เสื้อหนาวและเต็นท์ ไปแจกจ่ายให้แก่ผู้ประสบเหตุ
สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือรายงานสภาพอากาศที่คาดหมายว่า จะมีฝนตกหนักในพื้นที่ประสบเหตุ ซึ่งอาจทำให้เกิดดินถล่มและน้ำท่วมหนักขึ้น อีกทั้งทำให้ปฏิบัติการกู้ภัยยากลำบากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ พื้นที่ทางด้านตะวันตกของจีนเป็นพื้นที่ซึ่งมีความเสี่ยงเกิดแผ่นดินไหวอย่างสูง โดยเมื่อต้นปีนี้ เกิดแผ่นดินไหวขนาด 6.6 ในมณฑลเสฉวนที่อยู่ใกล้กับกานซู ทำให้มีผู้เสียชีวิตราว 200 คน และเมื่อ 5 ปีที่แล้วเกิดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ในมณฑลเสฉวนเช่นกัน มีผู้เสียชีวิตเกือบ 90,000 คน โดยในจำนวนนี้เป็นเด็กหลายพันคน นำไปสู่ข้อสงสัยว่า โรงเรียนที่ถล่มอาจมีสาเหตุจากการปลูกสร้างที่ไม่แข็งแรงเนื่องจากมีการทุจริตโกงกิน
