เอ็กซิทโพลระบุนายกฯ อาเบะ “ชนะ” เลือกตั้งสภาสูงญี่ปุ่น

บีบีซีนิวส์/เอเอฟพี - พรรคร่วมรัฐบาลของนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะได้รับชัยชนะอย่างงดงามในการเลือกตั้งสภาสูงวันนี้ (21ก.ค.) ผลสำรวจเอ็กซิทโพลของเหล่าสถานีโทรทัศน์ระบุ

พรรคลิเบอรัลเดโมเครติกปาร์ตี (แอลดีพี) และพรรคนิวโกเมอิโตะซึ่งเป็นพรรคร่วมรัฐบาลอ้างว่า ได้รับคะแนนเสียงอย่างน้อย 71 ในการแข่งขันชิงที่นั่งในสภาจำนวน 121 ที่นั่ง สถานีโทรทัศน์เอ็นเอชเคชี้

ก่อนหน้านี้ ก็มีผลสำรวจความคิดเห็นชี้ว่าพรรคแอลดีพีของอาเบะ และบรรดาพรรคพันธมิตรจะสามารถรักษาที่นั่งส่วนใหญ่เอาไว้ได้ ซึ่งหมายความว่าพรรครัฐบาลจะครองอำนาจของทั้งสองสภาได้เป็นครั้งแรกในรอบ 6 ปี

ภาวะชะงักงันที่อาจเกิดขึ้นในรัฐสภาตลอดช่วงที่ผ่านมา ถูกมองว่าเป็นปัจจัยสำคัญประการหนึ่งที่ทำให้ญี่ปุ่นเกิดการเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรีบ่อยครั้ง โดยแต่ละคนมักดำรงตำแหน่งได้เพียงแค่ 1 ปี

การเลือกตั้งเริ่มตั้งแต่ 7.00 น. (5.00 น.ในเมืองไทย) และได้สิ้นสุดลงเมื่อเวลา 20.00 น. (18.00 น. ในเมืองไทย)

ถึงแม้การเลือกตั้งครั้งนี้จะมีความสำคัญ แต่การออกมาใช้สิทธิลงคะแนนในช่วงแรกๆ ของวันกลับมีบรรยากาศคึกคักน้อยกว่าการเลือกตั้งสภาสูงครั้งก่อน เมื่อปี 2010

สภาสูงของญี่ปุ่น แม้ว่าจะไม่ทรงอิทธิพลเท่าสภาล่าง แต่ก็สามารถขัดขวางไม่ให้รัฐบาลออกกฎหมายได้

ในเวลานี้ ไม่มีพรรคใดครองเสียงข้างมากในสภาสูง ถึงแม้พรรคเดโมเครติกปาร์ตีออฟเจแปน (ดีพีเจ) ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านครองที่นั่งจำนวนมากที่สุดก็ตาม

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เหล่าพรรคฝ่ายค้านมีจำนวนที่นั่งรวมกันมากพอที่จะควบคุมสภาสูง จึงนำไปสู่สิ่งที่เรียกกันว่า “สภาบิดเบี้ยว”

สิ่งนี้ส่งผลให้เกิดการการแตกแยกเป็นฝักฝ่ายอย่างสูง และส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรีหลายครั้งหลายหน

“เราต้องการเสถียรภาพทางการเมืองเพื่อให้นโยบายของเราบรรลุผลสำเร็จ” อาเบะกล่าวในการปราศรัยก่อนการเลือกตั้ง “เราจะได้เสถียรภาพทางการเมืองนั้นมาด้วยการชนะการเลือกตั้งสมาชิกสภาสูง”

อาเบะได้รับเสียงสนับสนุนจากประชาชนอย่างค่อนข้างแข็งแกร่งจากการดำเนินนโยบายปฏิรูปเศรษฐกิจที่รู้จักกันในนามว่า “อาเบะโนมิกส์” ซึ่งเป็นความพยายามที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจซึ่งซบเซามานาน 2 ปีแล้ว

“ผมต้องการให้พวกเขารักษามาตรฐานในการทำงานให้ดีที่สุดเช่นนี้ต่อไป เนื่องจากเศรษฐกิจมีทีท่าว่าจะฟื้นคืนสู่สภาพปกติแล้ว” นาโอฮิสะ ฮายาชิ ผู้ลงคะแนนเสียงวัย 35 ปีกล่าวกับสำนักข่าวเอพี

“ผมต้องการจะเห็นรัฐบาลที่มีเสถียรภาพ และนั่นก็คือพรรคแอลดีพี” ฮิโรชิ มิยาโมโตะวัย 76 ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวรอยเตอร์ ภายหลังเสร็จสิ้นการลงคะแนนที่เมืองฮาชิโอจิ ซึ่งอยู่ใกล้กับกรุงโตเกียว

หลังชัยชนะในการเลือกตั้งสภาสูงคราวนี้ มีแนวโน้มที่อาเบะจะเปลี่ยนแปลงนโยบายในด้านอื่นๆ ซึ่งอาจกลายเป็นประเด็นที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ในสังคม

การเปลี่ยนแปลงประการหนึ่ง คือ เรื่องโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ของญี่ปุ่น ซึ่งเป็นสิ่งที่ประชาชนจำนวนมากออกมาต่อต้าน

ส่วนอีกเรื่อง คือ นโยบายชาตินิยมที่อาจก่อให้เกิดความตึงเครียดกับประเทศเพื่อนบ้าน

สิ่งนี้รวมไปถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญแนวสันตินิยมของญี่ปุ่นที่อาจเกิดขึ้น โดยเฉพาะมาตราที่ห้ามมิให้มีการใช้กำลังต่อกรกับต่างประเทศ ยกเว้นเพื่อป้องกันราชอาณาจักร