เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - เจ้าหน้าที่รัฐบาลเกาหลีใต้เผยในวันพฤหัสบดี (18) โดยยืนยันว่าเคยออกโรงเตือนสายการบินเอเชียนา แอร์ไลน์ส ตั้งแต่เมื่อ 2 เดือนก่อนให้เร่งปรับปรุงมาตรการด้านความปลอดภัย รวมถึงขอให้ทางสายการบินเพิ่มคุณภาพในการฝึกอบรมนักบิน ก่อนจะเกิดโศกนาฏกรรมที่สนามบินซานฟรานซิสโก
ควอน ยอง บอค ผู้อำนวยการใหญ่ด้านนโยบายความปลอดภัยทางการบินประจำกระทรวงที่ดิน โครงสร้างพื้นฐานและการขนส่งของเกาหลีใต้เผยในวันพฤหัสบดี (18) โดยยืนยันว่าทางกระทรวงฯ ได้แจ้งเตือนสายการบินเอเชียนาตั้งแต่ 2 เดือนที่แล้ว ให้เร่งปรับปรุงมาตรฐานด้านความปลอดภัยและขอให้ปรับปรุงหลักสูตรการผึกอบรมนักบินในสังกัดให้มีความเข้มข้นมากขึ้น แต่ก็ไม่มีความคืบหน้ามากนัก จนกระทั่งเกิดอุบัติเหตุเครื่องบินโดยสารแบบโบอิ้ง 777 เที่ยวบินที่ 214 ของเอเชียนา แอร์ไลน์ส ประสบอุบัติเหตุขณะลงจอดที่สนามบินซานฟรานซิสโกของสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคมที่ผ่านมา จนมีผู้โดยสารชาวจีนเสียชีวิต 3 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก
ผู้อำนวยการควอนยังเผยด้วยว่า ทางการเกาหลีใต้มีแผนเตรียมคุมเข้มอุตสาหกรรมการบินของประเทศหลังโศกนาฏกรรมครั้งนี้เพราะอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ด้านความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือของสายการบินในเกาหลีใต้ ขณะที่ทีมสอบสวนของทางการสหรัฐฯยังคงไม่ตัดทิ้งความเป็นไปได้ที่ว่าอุบัติเหตุของเที่ยวบิน 214 อาจเกิดจากความไม่พร้อมหรือความผิดพลาดส่วนบุคคลของนักบินเอเชียนา แอร์ไลน์ส
อุบัติเหตุที่สนามบินซานฟรานซิสโกยังส่งผลให้มูลค่าหุ้นของสายการบินเอเชียนา ดิ่งลงทำสถิติต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเมษายนปี 2010 เป็นต้นมา โดยมูลค่าหุ้นของเอเชียนาได้ปรับร่วงลงมาแล้วถึง 24 เปอร์เซ็นต์ในปีนี้
ทั้งนี้ รายงานข่าวระบุว่า กระทรวงที่ดิน โครงสร้างพื้นฐานและการขนส่งของเกาหลีใต้ได้ส่งผู้เชี่ยวชาญเข้าประเมินการดำเนินงานของสายการบินเอเชียนาหลายครั้งในระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ จนถึงสิ้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา และทางกระทรวงฯ พบข้อบกพร่องสำคัญใน 2 ส่วน คือ มาตรการด้านความปลอดภัยและคุณภาพของนักบินซึ่งก็ได้มีการแจ้งเตือนต่อผู้บริหารของสายการบินไปแล้ว
ในอีกด้านหนึ่ง โฆษกของเอเชียนาปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นใดๆ ต่อกระแสข่าวที่ว่า ทางสายการบินมีแผนจะขยายจำนวนเครื่องบินในฝูงบินของตนอีกราว 22 เปอร์เซ็นต์ภายในปี 2017 แม้จะเพิ่งผ่านพ้นอุบัติเหตุที่ซานฟรานซิสโก ซึ่งถือเป็นอุบัติเหตุทางอากาศที่ร้ายแรงครั้งแรกที่เกิดขึ้นในสหรัฐฯ นับตั้งแต่ ปี 2009 เป็นต้นมา