เอเอฟพี - นายกเทศมนตรีลอสแองเจลิส เมื่อวันอังคาร (16) ตามเวลาท้องถิ่น แถลงเสริมกำลังตำรวจพิเศษ เพื่อป้องกันเหตุประท้วงรุนแรงคัดค้านคำพิพากษาในคดียิงเด็กหนุ่มผิวสี เทรวอน มาร์ติน เสียชีวิต จะเกิดขึ้นซ้ำอีก หลังจากมีประชาชน 14 คน ถูกจับกุมในเหตุความไม่สงบที่ลุกลามบานปลายเข้าสู่ค่ำคืนที่ 2 แล้ว
ชาร์ลี เบ็ค ผู้บัญชาการกรมตำรวจลอสแองเจลิส (LAPD) ระบุว่าการเสริมกำลังดังกล่าวออกแบบมาเพื่อป้องกันเหตุการณ์ซ้ำรอยการประท้วงรุนแรงเมื่อช่วงค่ำวันจันทร์ (15) ที่ผู้ชุมนุมขึ้นไปกระโดดบนหลังคารถ ทุบทำลายร้ายค้าและโจมตีผู้สัญจรผ่านไปมา
“คืนนี้ เราจะเพิ่มประจำการเจ้าหน้าที่ตำรวจ และพวกเขาจะตอบสนองต่อการกระทำความผิดทางอาญาอย่างรวดเร็ว” เอริค การ์เซตติ นายกเทศมนตรี แถลงข่าวร่วมกับ เบ็ค “เราเรียกร้องผู้คนให้ดำเนินการอย่างสันติ ไม่ปล่อยให้การพูดจาเกี่ยวข้องกับการตายของนายเทรวอน มาร์ติน ต้องเงียบงันจากเหตุความรุนแรงใดๆ”
คดีของนายมาร์ติน สร้างความแตกแยกระหว่างผู้คนที่คิดว่า นายจอร์จ ซิมเมอร์มอน วัย 29 ปี ซึ่งมีบิดาเป็นคนผิวขาวและมารดาเป็นชาวเปรู ลงมือฆ่านายมาร์ติน คนผิวสี เพื่อปกป้องตนเองเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปีก่อน กับกลุ่มคนที่มองว่าการสังหารดังกล่าวมีแรงจูงใจด้านการเหยียดผิว
ผู้บัญชาการตำรวจลอสแองเจลิส เสริมว่า “เราไม่อยากจับกุมใครในคืนนี้ แต่ขอบอกก่อนเลยว่า ใครก็ตามที่อยู่ที่นี่เมื่อคืนก่อนและออกมาด้วยเหตุผลผิดๆ ถ้าคุณออกมาอีกในคืนนี้ คุณจะต้องเข้าคุก” เขากล่าว อย่างไรก็ตามทั้งเขาและนายกเทศมนตรี ต่างก็ไม่มีใครระบุถึงจำนวนของตำรวจที่ถูกส่งเข้าประจำการตามพื้นที่ต่างๆ ในวันอังคาร (16) หลังจากมีตำรวจราว 350 นาย ปฏิบัติหน้าที่เมื่อค่ำคืนวันจันทร์ (15)
เมื่อวันอาทิตย์ (14) ตำรวจจับกุมประชาชนไป 8 ราย ในนั้นหลายคนอยู่ในกลุ่มที่รวมตัวอยู่รอบนอกอาคารสำนักข่าวซีเอ็นเอ็นในฮอลลีวูด เพื่อประท้วงต่อกรณีศาลพิพากษาชำระคดีนายซิมเมอร์มอน
จากนั้นในช่วงค่ำวันจันทร์ (15) มีผู้ประท้วง 14 คนถูกรวบตัว ตามหลังห้างร้านธุรกิจต่างๆ ในนั้น รวมไปถึงร้านวอล-มาร์ต ถูกโจมตีได้รับความเสียหาย ระหว่างที่ผู้ชุมนุมราว 150 คน อาศัยสถานการณ์ความตึงเครียดจากกรณีนายซิมเมอร์มอน รอดพ้นถูกดำเนินคดีในข้อหาฆาตกรรมนายมาร์ติน มาใช้ประโยชน์ก่อเหตุรุนแรง
นายกเทศมนตรีลอสแองเจลิส กล่าวว่า “เคราะห์ร้ายที่เมื่อคืนนี้ เราได้เห็นการก่ออาชญกรรมบางอย่างที่คุกคามสันติภาพของชุมชน และคุกคามบดบังสันติภาพของคนส่วนใหญ่” เขาระบุ “คดีของนายมาร์ติน สามารถจุดชนวนอารมณ์ความรู้สึก ไม่ใช่แค่ในลอสแองเจลิสแต่รวมไปถึงทั่วประเทศด้วย แต่มันจะไม่โหมไฟเผาผลาญเมืองแห่งนี้”
