เกาหลีใต้กร้าว !!“ญี่ปุ่น”ต้องแสดง “ความจริงใจ” ก่อน ในการแก้ความขัดแย้งทางประวัติศาสตร์

เอเจนซีส์ - เมื่อวานนี้(11) รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศเกาหลีใต้ คิม คยู-ฮยอน ประกาศในระหว่างการพบปะรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่น อากิทากะ ไซกิ ที่มาเยือนเกาหลีใต้เป็นเวลา 2 วัน เพื่อซ่อมแซมความสัมพันธ์ของทั้ง 2 ประเทศ โดยคิมกล่าวว่า ญี่ปุ่นควรแสดงความพยายามที่มากกว่านี้ในการแก้ปัญหาข้อขัดแย้งทางประวัตศาสตร์ของทั้ง 2 ชาติ ถ้าญี่ปุ่นต้องการที่จะสร้างความเชื่อมั่นและพัฒนาความสัมพันธ์ระดับทวิภาคีกับเกาหลีใต้

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศเกาหลีใต้ คิม คยู-ฮยอน ได้พบกับตัวแทนจากญี่ปุ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่น อากิทากะ ไซกิ ที่กรุงโซล ที่มีกำหนดการเยือนเกาหลีใต้เป็นเวลา 2 วันเพื่อซ่อมแซมความสัมพันธ์ของทั้ง 2 ประเทศ “สิ่งที่สำคัญที่สุดที่จะพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ให้ยั่งยืน คือการที่รัฐบาลญี่ปุ่นต้องใช้ความพยายามให้มากกว่านี้เพื่อแก้ปัญหาข้อขัดแย้งที่มีในประวัติศาสตร์ระหว่างทั้ง 2 ชาติ คิมกล่าวกับซากิในการพบปะ

“ในการที่ทำเช่นนั้น รัฐบาลญี่ปุ่นถึงจะสามารถสร้างเชื่อมั่น และพัฒนาความสัมพันธ์ในระดับทวิภาคีกับเกาหลีใต้ได้” คิมเผยต่อ ไม่มีอะไรที่การร่วมมืออย่างใกล้ชิดระหว่างเกาหลีใต้และญี่ปุ่นสำคัญเท่าสันติภาพและความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจในแถบตะวันออกเฉียงเหนือและภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

ในทางกลับกัน ซากิกล่าวโต้ว่า “รัฐบาลญี่ปุ่นของอาเบะยืนยันที่จะแก้ปัญหาในข้อขัดแย้งทางประวัติศาสตร์กับเกาหลีใต้ตามกรอบที่รัฐบาลญี่ปุ่นในอดีตได้เคยทำไว้”

ทั้งนี้ ซากิได้อ้างถึง การขอโทษอย่างเป็นทางการในปี 1995 ที่รัฐมนตรีญี่ปุ่น โทมิชิ มูรายามะ ในสมัยนั้น รู้สึกเห็นใจต่อชาวเกาหลีใต้ที่ต้องทุกข์ทรมานในช่วงที่เกาหลีใต้ถูกปกครองโดยญี่ปุ่นเป็นเวลา 36 ปี หรือจนกระทั่งในปี 1945

จากที่ผ่านมา ถึงแม้ทั้ง 2 ประเทศจะมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกันในด้านเศรษฐกิจและด้านอื่นๆ แต่เป็นเพราะข้อขัดแย้งในเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ทำให้ทั้งญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ต่างไม่ลงรอยกัน

เมื่อไม่นานมานี้ ญี่ปุ่นได้อ้างสิทธิ์ครอบครองเหนือเกาะทาเคชิมะ(หรือเกาะด็อกโดในเกาหลีใต้)ในหนังสือเรียนและเอกสารราชการของญี่ปุ่น ซึ่งการกระทำนี้เกาหลีใต้ถือว่าญี่ปุ่นไม่รู้สึกสำนึกต่อลัทธิจักรวรรดินิยมของญี่ปุ่นในสมัยนั้น และถือว่าการอ้างสิทธิในการครอบครองหมู่เกาะด็อกโดนั้น เป็นการแสดงว่าญี่ปุ่นไม่ยอมรับการประกาศเอกราชของเกาหลีใต้ต่อญี่ปุ่น ซึ่งเกาหลีใต้ยังคงให้มีสถานีตำรวจบนเกาะด็อกโดตั้งแต่ 1954

อนึ่ง ทั้งญี่ปุนและเกาหลีใต้เริ่มมีความสัมพันธ์ทางการทูตตั้งแต่ 1965