เอเอฟพี/เอเจนซีส์ - เกิดเหตุระเบิดอานุภาพต่ำติดต่อกันหลายครั้งในวันอาทิตย์ (7 ก.ค.) ณ “พุทธคยา” สถานที่ตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า ซึ่งตั้งอยู่ในรัฐพิหาร ทางภาคตะวันออกของอินเดีย ส่งผลให้มีพระสงฆ์บาดเจ็บ 2 รูป เจ้าหน้าที่ตำรวจระบุ ขณะที่วัดมหาโพธิและต้นพระศรีมหาโพธิ์ ซึ่งเป็นศูนย์กลางของสังเวชนียสถานแห่งนี้ ไม่ได้รับความเสียหายแต่อย่างใด
ระเบิดขนาดเล็กซึ่งมีผู้นำมาวางเอาไว้หลายจุดภายในเขตสังเวชนียสถานแห่งนี้ ได้เกิดการระเบิดขึ้นมารวม 9 จุด และรัฐบาลอินเดียเรียกเหตุร้ายคราวนี้ว่า เป็น “การโจมตีของผู้ก่อการร้าย”
ยังไม่มีใครหรือกลุ่มใดประกาศอ้างความรับผิดชอบเป็นผู้ก่อเหตุครั้งนี้ แต่ตำรวจเปิดเผยว่าก่อนหน้านี้ได้เคยเตือนเหล่าเจ้าหน้าที่ไว้แล้วว่า พุทธคยาอันเป็นสังเวชนียสถาน 1 ใน 4 แห่งซึ่งดึงดูดพุทธศาสนิกชนจำนวนมากให้มาเคารพสักการะ อาจตกเป็นเป้าหมายโจมตีของพวกอิสลามิสต์หัวรุนแรง เพื่อแก้แค้นเหตุการณ์รุนแรงที่ชาวพุทธทำร้ายคนมุสลิมในพม่า
“ระเบิด 4 ลูกตูมตามขึ้นมาภายในเขตพื้นที่ของพุทธคยา” รัฐมนตรีมหาดไทย สุสีล กุมาร ชินเด ของอินเดีย แถลงกับผู้สื่อข่าว “อีก 4 ลูกระเบิดขึ้นใกล้ๆ กับวัดกรรมาปะ (ของทิเบต) ขณะที่ลูกหนึ่งระเบิดใกล้ๆ กับพระพุทธรูปองค์ใหญ่ และลูกหนึ่งก็ตูมขึ้นมาตรงรถโดยสารนักท่องเที่ยวคันหนึ่งซึ่งจอดอยู่ด้านนอก”
รัฐมนตรีผู้นี้กล่าวต่อไปว่า พวกเจ้าหน้าที่ยังพบลูกระเบิดที่ยังไม่ได้ทำงานอีก 2 ลูกภายในเขตสังเวชนียสถาน และจัดการถอดชนวนแล้ว โดยที่ลูกหนึ่งนั้นพบที่บริเวณใกล้ๆ พระพุทธรูปองค์ใหญ่สูง 24 เมตร
นอกเหนือจากวัดมหาโพธิ, ต้นพระศรีมหาโพธิ์ ซึ่งเชื่อกันว่าพระพุทธเจ้าทรงครัสรู้ที่ใต้ต้นไม้นี้เมื่อ 2,600 ปีก่อน, ตลอดจนวิหารต่างๆ ภายในเขตพุทธคยาแล้ว ยังมีวัดของชาวพุทธในประเทศต่างๆ จำนวนรวมสิบกว่าวัด สร้างรายเรียงอยู่ใกล้ๆ กับสังเวชนียสถานแห่งนี้
“ต้นโพธิ์ศักดิ์สิทธิ์ยังคงปลอดภัยดี และไม่ได้รับความเสียหายจากแรงระเบิดแม้แต่น้อย” อภยานันท์ ผู้บัญชาการตำรวจในรัฐพิหาร กล่าวยืนยันกับผู้สื่อข่าวเอเอฟพี
ทางด้านนายกรัฐมนตรี มานโมหัน ซิงห์ ของอินเดีย ได้แถลงประณาการก่อเหตุคราวนี้ โดยระบุว่า “การโจมตีต่อสถานที่ทางศาสนาเช่นนี้เป็นสิ่งที่จะยอมอดทนให้เกิดขึ้นมาไม่ได้เลย”
ส่วนรัฐมนตรีช่วยมหาดไทย อาร์.พี.เอ็น. ซิงห์ ก็บอกกับผู้สื่อข่าวว่า “เป็นที่ชัดเจนว่านี่เป็นการโจมตีของผู้ก่อการร้าย” และทีมเจ้าหน้าที่สืบสวนกำลังเข้าไปตรวจสอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
เอเอฟพีรายงานโดยอ้างเจ้าหน้าที่ผู้หนึ่งซึ่งทำงานเน้นหนักเรื่องการปฏิบัติการต่อต้านการก่อการร้าย ระบุว่า ตำรวจในกรุงนิวเดลี ได้เตือนพวกเจ้าหน้าที่ของรัฐพิหารตั้งแต่ฤดูหนาวที่ผ่านมาว่า พวกอิสลามิสต์หัวรุนแรงจากกลุ่ม “อินเดียน มุญาฮิดีน” กำลังวางแผนโจมตีพุทธคยา
“เราบอกกับตำรวจของรัฐนั้นว่า พวกอินเดียน มุญาฮิดีน วางแผนเข้าโจมตีเพื่อเป็นการแก้แค้นที่เกิดเหตุรุนแรงชาวพุทธเล่นงานชาวมุสลิมในพม่า” เจ้าหน้าที่ผู้นี้กล่าวโดยขอให้สงวนนาม และบอกต่อไปว่า “เราบอกพวกเขาว่า พุทธคยาเป็นจุดหนึ่งที่อาจตกเป็นเป้าหมายของการโจมตี”
พวกอินเดียน มุญาฮิดีน ได้ออกมายอมรับว่าเป็นผู้ก่อเหตุระเบิดหลายต่อหลายครั้งในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา และมักถูกระบุเป็นผู้ต้องสงสัยในการโจมตีครั้งต่างๆ ทั่วประเทศอินเดีย
ในอดีตที่ผ่านมา การโจมตีพุทธศาสนิกชนเป็นสิ่งที่ไม่ค่อยเกิดขึ้นในอินเดีย ทว่าในระยะหลังมานี้ได้เกิดความตึงเครียดอย่างกว้างขวางมากขึ้นในภูมิภาคแถบนี้ หลังจากที่มีการปะทะกันระหว่างชาวพุทธและชาวมุสลิมทั้งในพม่า ศรีลังกา และบังกลาเทศ
ทางการอินเดียเพิ่มกำลังรักษาความปลอดภัยเพื่อปกป้องสังเวชณียสถานแห่งนี้หลังจากเกิดเหตุระเบิดในวันอาทิตย์ ซึ่งส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บ 2 ราย เป็นพระสงฆ์ทิเบตวัย 50 ปี และพระสงฆ์พม่าวัย 30 ปี
สำหรับความเสียหายจากเหตุระเบิดเท่าที่พอมองเห็นคือ หน้าต่างหลายบานของอาคารหลังหนึ่งถูกระเบิดกระจายเกลื่อน ขณะที่ประตูไม้ของวิหารหลังเล็กหลังหนึ่งก็ถูกทำลาย และเศษไม้ถูกแรงระเบิดซัดเข้าไปภายในอาคารอีกหลังหนึ่ง
โกมารันคาดาวาลา เหมะรัตนะ พระภิกษุชาวศรีลังกาวัย 28 ปี เล่าว่า ท่านได้วิ่งไปยังที่เกิดเหตุหลังจากเกิดการระเบิด และพบว่าคนร้ายได้วางระเบิดลูกหนึ่งเอาไว้ที่ฐานของพระพุทธรูปองค์ใหญ่ แต่ไม่ระเบิด “เป็นปาฏิหาริย์จริงๆ ที่พระพุทธรูปองค์นี้ไม่เป็นอะไรเลย”
สังเวชนียสถานพุทธคยาตั้งอยู่ห่างจากเมืองปัฏนา เมืองหลวงของรัฐพิหารไปทางตอนใต้ 110 กิโลเมตร และได้รับการขึ้นบัญชีจากองค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) ให้เป็นมรดกโลกในปี 2002
