เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - หนังสือพิมพ์เก่าแก่ของรัสเซียรายงานในวันศุกร์ (28) ระบุ ขณะนี้ไม่มีกำลังพลของรัสเซียหลงเหลืออยู่ในแผ่นดินซีเรียแม้แต่รายเดียว ส่งสัญญาณว่า “สงครามกลางเมืองซีเรีย” ที่ดำเนินมานานเกินกว่า 2 ปีอาจถึงจุดพลิกผันในไม่ช้า
รายงานข่าวของ “เวโดมอสติ” หนังสือพิมพ์รายวันซึ่งมีอายุเก่าแก่ที่สุดของรัสเซีย ที่มีการตีพิมพ์ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1703 ระบุว่า ในขณะนี้ไม่มีเจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหมรัสเซีย หรือทหารรัสเซีย รวมถึงเหล่าที่ปรึกษาทางทหารจากแดนหมีขาวอยู่ในซีเรียแม้แต่รายเดียว ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่า รัฐบาลมอสโกได้ตัดสินใจถอนกำลังพลทั้งหมดของตนที่เคยประจำการอยู่ ณ ฐานทัพเรือในเมืองท่าทาร์ทุสของซีเรียที่ตั้งอยู่ริมฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียนออกจนหมดแล้ว
นักวิเคราะห์ระบุว่า หากรายงานดังกล่าวของหนังสือพิมพ์เวโดมอสติเป็นความจริง นั่นหมายความว่า รัฐบาลรัสเซียมีความหวั่นวิตกถึงความไม่ปลอดภัยของกำลังพลของตนในซีเรีย จากผลของสงครามกลางเมืองที่ยืดเยื้อเข้าสู่ขวบปีที่ 3 แม้ทางมอสโกจะตระหนักดีว่า การถอนกำลังของรัสเซียออกจากฐานทัพเรือดังกล่าว ริมชายฝั่งของซีเรียอาจกระทบต่อเสถียรภาพของพันธมิตรของตนนั่นคือรัฐบาลประธานาธิบดีบาชาร์ อัล อัสซาด
อย่างไรก็ดี มิคาอิล บอกดานอฟ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย ปฏิเสธที่จะให้ความเห็นต่อเรื่องดังกล่าว แต่ยังคงยืนยันว่า รัฐบาลมอสโกยังคงไว้ซึ่งจุดยืนในการสนับสนุนระบอบการปกครองของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล อัสซาด ในซีเรียเช่นเดิม
อเล็กซานเดอร์ โกลต์ส นักวิเคราะห์ด้านการทหารในกรุงมอสโกเผยว่า การถอนตัวออกจากฐานทัพเรือทาร์ทุสต้องมีเบื้องหลังแอบแฝง เนื่องจากฐานทัพเรือดังกล่าวที่เคยมีกำลังพลของรัสเซียประจำการอยู่นับร้อยนายถือเป็นฐานทัพเรือเพียงแห่งเดียวของรัสเซียที่มีที่ตั้งอยู่ “นอกดินแดนของอดีตสหภาพโซเวียต” และถือเป็นหนึ่งในฐานทัพเรือที่มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์มากที่สุดแห่งหนึ่งของรัฐบาลมอสโก ขณะที่ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน เอง เพิ่งมีคำสั่งเมื่อปีที่แล้วให้มีการเพิ่มจำนวนกำลังพลของรัสเซียในฐานทัพดังกล่าวเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่การล่มสลายของสหภาพโซเวียตในปี 1991 เป็นต้นมา
ทั้งนี้ มีกระแสข่าวแพร่สะพัดว่า รัฐบาลมอสโกเคยใช้ฐานทัพเรือทาร์ทุสเป็นจุดศูนย์กลางสำหรับการขนส่งลำเลียงอาวุธเข้าไปยังซีเรีย เพื่อให้การสนับสนุนกองกำลังของรัฐบาลซีเรียในการสู้รบกับฝ่ายกบฏในประเทศ