เอเอฟพี - เหล่าบริษัทเดินเรือนเตือนเมื่อวันศุกร์(21) หมอกควันจากไฟป่าอินโดนีเซีย อาจก่ออุบัติเหตุระหว่างเดินเรือในช่องแคบสิงคโปร์และช่องแคบมะละกาที่พลุกพล่านอยู่แล้ว ซึ่งก่อความเสี่ยงมีสิทธิ์เกิดภัยหายนะจากน้ำมันรั่ว
สมาคมเดินเรือแห่งประเทศสิงคโปร์(เอสเอสเอ)บอกว่าปกติแล้วก็มีเรือกว่า 140 ลำ ทั้งเรือบรรทุกน้ำมัน และเรือโดยสารข้ามฟาก ใช้เส้นทางเดินเรือแคบๆของช่องแคบมะละกาในแต่ละวัน แต่ด้วยทัศนวิสัยที่เลวร้าย อันเนื่องจากหมอกควันจากไฟป่าก็เป็นผลให้สภาพแวดล้อมอันตรายยิ่งขึ้น
"เอสเอสเอ มีความกังวลใหญ่หลวงเกี่ยวกับผลกระทบของสภาวะหมอกควันที่เลวร้ายลงเรื่อยต่อความปลอดภัยด้านการเดินเรือนผ่านช่องแคบมะละกาและช่องแคบสิงคโปร์" ถ้อยแถลงสมาคมเดินเรือแห่งประเทศสิงคโปร์ระบุ
นายแดเนียล ตัน ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารของสมาคมเดินเรือแห่งประเทศสิงคโปร์ กล่าวว่าช่องแคบมะละกาและช่องแคบสิงคโปร์ เป็นหนึ่งในช่องแคบที่พลุกพล่านที่สุดและแคบที่สุดของการเดินเรือระหว่างประเทศ "แน่นอนว่าทัศนวิสัยที่สั้นลงท่ามกลางการสัญจรทางเรือที่แออัด จะส่งผลต่อความปลอดภัยในการเดินเรือผ่านช่องแคบทั้งสอง"
เขาเตือนต่อว่า "ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุใดๆ ชีวิตมนุษย์และสิ่งแวดล้อมทางทะเลล้วนแต่ตกอยู่ในความเสี่ยง โดยเฉพาะหากมันเกี่ยวข้องกับเรือบรรทุกน้ำมันดิบขนาดใหญ่ เหตุน้ำมันรั่วทะลักจากเรือบรรทุกน้ำมันไม่เพียงก่อผลกระทบต่อเนื่องร้ายแรงต่อชีวิตทางทะเลในช่องแคบทั้งสองแล้ว แต่มันยังส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตของชาวประมงหรือใครก็ตามที่พึ่งพาอุตสาหกรรมด้านการท่องเที่ยว"
หมอกควันจากไฟป่าบนเกาะสุมาตราประเทศอินโดนีเซีย เกิดจากการเผาและแผ้วถางที่ดิน กลายเป็นหมอกควันที่ปกคลุมสิงคโปร์ บางส่วนของมาเลเซีย และ ช่องแคบมะละกาในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา
ในขณะที่อินโดนีเซียกำลังพยายามเร่งดับไฟ ข้อมูลจากหน่วยเฝ้าระวังของรัฐบาลสิงคโปร์ระบุว่าค่าหมอกควันของสิงคโปร์ก็ขึ้นสู่ระดับ 400 ซึ่งถือเป็นระดับที่อันตรายต่อชีวิตของผู้ป่วยและผู้สูงอายุ