เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์-นายฮัสซัน โรฮานี อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงสูงสุดแห่งอิหร่าน ได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีคนใหม่ของประเทศอย่างเป็นทางการในวันเสาร์ (15) ส่งผลให้ผู้สมัครสายกลางวัย 64 ปีรายนี้ จะได้ก้าวขึ้นครองตำแหน่งประธานาธิบดีคนที่ 7 ของอิหร่านต่อจากนายมะห์มูด อะห์มาดิเนจัด ที่กำลังจะหมดวาระในต้นเดือนสิงหาคมนี้
มอสตาฟา โมฮัมหมัด นัจจาร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยอิหร่าน แถลงที่กรุงเตหะรานโดยยืนยันว่า โรฮานีได้รับการเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีคนใหม่อย่างเป็นทางการแล้วโดยได้คะแนนเสียงมากกว่า 18.61 ล้านเสียง หรือราวครึ่งหนึ่งจากคะแนนเสียงทั้งหมด 36.7 ล้านเสียง ขณะที่คู่แข่งสำคัญอย่างนายโมฮัมหมัด บาเกร์ กอลิบัฟได้คะแนนตามมาเป็นลำดับ 2 ที่ 6.07 ล้านเสียงเท่านั้น ส่วนนายซาอีด จาลีลี หัวหน้าคณะผู้แทนอิหร่านในการเจรจากับชาติตะวันตกเรื่องโครงการพัฒนานิวเคลียร์ ที่เคยถูกยกให้เป็น “เต็งหนึ่ง” ในการเลือกตั้งหนนี้กลับได้คะแนนเสียงเป็นลำดับที่ 3 หรือราวร้อยละ 11.46 เท่านั้น
ชัยชนะอย่างถล่มทลายของนายโรฮานีซึ่งเป็นผู้มีแนวคิดแบบสายกลาง เหนือบรรดาผู้สมัครหัวอนุรักษนิยมทั้งหลาย เป็นการบ่งชี้ว่า ชาวอิหร่านต้องการเห็นประเทศของตนก้าวเดินออกจากแนวทางอนุรักษนิยมแบบสุดขั้ว ที่ดำเนินมาตลอดหลายปีที่ผ่านมา และต้องการเห็นคณะผู้ปกครองมีความยืดหยุ่นมากขึ้นในการรับมือกับปัญหาทางด้านเศรษฐกิจของประเทศที่กำลังย่ำแย่ จากผลของมาตรการคว่ำบาตรจากนานาชาติต่อโครงการนิวเคลียร์อิหร่าน
อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์คาดว่าผลการเลือกตั้งที่ออกมา ยังไม่เพียงพอจะทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างอิหร่านกับโลกตะวันตก พัฒนาไปในแนวทางที่ดีขึ้นในชั่วข้ามคืน แม้โรฮานีจะเคยให้คำมั่นว่า เขาจะใช้นโยบาย “ลดการเผชิญหน้า” กับชาติตะวันตก ซึ่งถือเป็นแนวทางที่ตรงข้ามกับจุดยืนของ ประธานาธิบดีมะห์มูด อะห์มาดิเนจัด ผู้นำวัย 56 ปีที่ครองอำนาจมาตั้งแต่ปี 2005 และกำลังจะหมดวาระในอีก 2 เดือนข้างหน้า
ทั้งนี้ ทางการอิหร่านเผยว่า มีผู้ออกมาใช้สิทธิ์ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งนี้ สูงถึงร้อยละ 80 จากจำนวนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งมากกว่า 50 ล้านคนทั่วประเทศ