บีบีซี/ยาฮูนิวส์/เอเอฟพี - พ่อครัวรายหนึ่งรอดชีวิตราวปาฏิหาริย์ 3 วันหลังเรือของบริษัทน้ำมันเกิดอัปปางและจมลงสู่ก้นทะเลนอกชายฝั่งไนจีเรีย ก่อนที่เขาจะได้รับความช่วยเหลือโดยบังเอิญจากหน่วยกู้ภัยที่ถูกส่งลงไปปฏิบัติภารกิจเก็บกู้ศพ
มีลูกเรือทั้งหมด 12 คนที่อยู่บนเรือโยงของบริษัทน้ำมันแห่งหนึ่ง ตอนที่มันเกิดอัปปางท่ามกลางคลื่นลมแรงของมหาสมุทรแอตแลนติก ห่างจากชายฝั่งไนจีเรีย ราว 30 กิโลเมตร เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม โดยตอนนั้นเจ้าหน้าที่สรุปว่าพบร่างผู้เสียชีวิต 10 คน อีก 2 คนสูญหาย และไม่นานก็ยกเลิกปฏิบัติการค้นหาทั้งหมด
รายงานข่าวระบุว่านายโอเคเน แฮร์ริสัน วัย 29 ปี แทรกตัวเข้าไปช่องแคบๆหลังจากเรือโยงสัญญาจ้างของบริษัทเชฟรอนที่เกิดอัปปางและหงายท้องอยู่ใต้ทะเลลึกลงไปจากผิวน้ำ 30 เมตร ก่อนชายชาวไนจีเรียรายนี้จะได้รับความช่วยเหลือขึ้นมาหลังผ่านไป 62 ชั่วโมง ในภารกิจฉุกเฉินที่เกิดขึ้นโดยไม่ได้เตรียมการมาก่อน
นายโอเคเน เล่าว่าเขาอยู่รอดด้วยการดื่มเครื่องดื่มโคคาโคลาเพื่อประทังชีวิต แต่พอเวลาผ่านไปเรื่อยๆก็เริ่มคิดแล้วว่าตนเองคงไม่รอด แต่ความหวังก็ถูกจุดประกายขึ้นมาหลังได้ยินเสียงของนักประดาน้ำที่ลงมาตรวจหาศพผู้สูญหาย จนท้ายที่สุดก็ได้รับความช่วยเหลือขึ้นสู่ผิวน้ำ จากปฏิบัติการเก็บกู้ศพที่มีขึ้นราว 3 วันหลังจากเกิดเหตุ
ทั้งนี้นายโอเคเน เล่าว่าเขาหายใจอยู่ในช่องอากาศแคบๆขนาด 4 ฟุตที่ยังคงอยู่ในสภาพสมบูรณ์ แต่น้ำก็ค่อยๆเพิ่มระดับขึ้นจนคิดว่าคงไม่รอดแล้ว จนกระทั่งท้ายที่สุดนักประดาน้ำชาวแอฟริกาใต้ 2 คนมาช่วยเขาได้ทันเวลา
"ผมอยู่ในน้ำท่ามกลางความมืดมิดและคิดแต่เพียงว่าคงถึงจุดจบแล้ว ผมคิดว่าไม่นานน้ำคงท่วมเต็มห้อง ทว่าเคราะห์ดีที่มันไม่เป็นแบบนั้น" เขาเล่า "ผมหิวและกระหายน้ำมาก น้ำทะเลทำเอาลิ้นผมถลอกหมด แม้ผมไม่ได้ดื่มมันเข้าไปก็ตาม"
ทางเวสต์ แอฟริกัน เวนเทอร์ ลิมิเต็ด ซึ่งเป็นบริษัทเจ้าของเรือโยงเผยว่าเรือโยงลำนี้กำลังลากเรือบรรทุกน้ำมันลำหนึ่งตอนที่เกิดเหตุ