เอเจนซีส์ - กลุ่มต่อต้านการถูกข่มขืนมากกว่า 100 องค์กรยื่นจดหมายข้อเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีแห่งสหราชอาณาจักรอังกฤษ เดวิด คาเมรอน สั่งการให้การครอบครองภาพที่แสดงการถูกข่มขืนที่เผยแพร่ทางออนไลน์ผิดกฎหมาย
ถึงแม้การที่พิมพ์และเผยแพร่ภาพที่แสดงการถูกข่มขืนจะเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมายมานานหลายสิบปีในสกอตแลนด์ และอาจจะมีผลลัพธ์แบบเดียวกันในอังกฤษและเวลส์ก็ตาม แต่ไม่มีผลสำหรับการเผยแพร่นอกประเทศหรือในที่อำนาจตุลาการของอังกฤษไปไม่ถึง
ทั้งนี้ ฟิโอนา เอลวินส์ ตัวแทนจาก RASASC หรือศูนย์วิกฤตการข่มขืนในลอนดอนใต้ อ้างถึงเนื้อความในจดหมายที่ส่งตรงถึงคาเมรอนว่าการอนุญาตใครก็ตามที่ครอบครองภาพแสดงการถูกข่มขืนนั้น เป็นการส่งเสริมให้ความรุนแรงทางเพศนั้นดู “มีเกียรติ” “เป็นเรื่องเล็กน้อย” และ “ดูเหมือนธรรมดา” ในการที่จะทารุณสตรีและเด็กหญิง ซึ่งจากสถิติอย่างเป็นทางการ มีจำนวนผู้ตกเป็นเหยื่อการทารุณทางเพศราว 85,000 คนต่อปีในอังกฤษ พร้อมกับยกตัวอย่างกรณีย์ของ มาร์ค บริดเจอร์ และ สจ๊วร์ต ฮาเซล ที่ถูกจองจำเนื่องมาจากสังหารเอพริล โจนส์ และ ทีอา ชาร์ปเปอร์ ซึ่งนักโทษทั้งสองนี้ใช้ภาพอนาจารที่แสดงความรุนแรงและความเกลียดชังต่อสตรีเพศเป็นแรงจูงใจ
นอกจากนี้ศูนย์ RASASC ได้ทำวิจัยเกี่ยวกับ “ภาพอนาจารการข่มขืน” ที่เผยแพร่ทางออนไลน์นั้นมักจะมีข้อความอธิบายประกอบ อาทิเช่น “เด็กนักเรียนหญิงถูกลักพาและข่มขืนอย่างโหดเหี้ยม....ได้ยินเสียงกรีดร้องของเธอ” “เด็กนักเรียนตัวน้อยโดนครูตัวเองชำเรา” ซึ่งข้อความพวกนี้เหมือนเป็นการเชิญชวนและสนับสนุนการกระทำเหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็น การลักพาตัว หรือการข่มขืน ตามด้วยความรุนแรงและการละเมิดผู้เยาว์
ศาสตราจารย์แคลร์ แมกกลินน์ ผู้เชี่ยวชาญด้านนโยบายและกฎหมายทารุณทางเพศ ประจำคณะกฎหมาย แห่งมหาวิทยาลัยดูร์แฮม ได้พบกับข้าราชการกระทรวงยุติธรรมของอังกฤษในเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว เพื่อกระตุ้นให้กระทรวงยุติธรรมของอังกฤษปิดช่องโหว่ทางกฎหมายในอาชญากรรมทารุณทางเพศ อย่างไรก็ตามข้อเรียกร้องของเธอไม่เป็นผล โดยกล่าวว่า “มันไม่เหมาะสม หรือมันยังไม่จำเป็น”
อย่างไรก็ตาม โฆษกรัฐบาลอังกฤษกล่าวตอบบรรดากลุ่มต่อต้านการข่มขืนว่า “การข่มขืนเป็นอาชญากรรมที่โหดร้าย ดังนั้นทางรัฐบาลอังกฤษได้เดินหน้าจัดการกับปัญหาความรุนแรงทางเพศในผู้หญิงและเด็ก รัฐบาลรู้สึกกังวลต่อปัญหาสังคมที่มีภาพแสดงความรุนแรงเผยแพร่ทางอินเทอร์เน็ต และได้เพิ่มมาตรการแก้ปัญหาโดยมีติดตั้งระบบกรองเนื้อหาหรือภาพที่ไม่เหมาะสมเผยแพร่ทางอินเทอร์เน็ตเพื่อปกป้องเยาวชนอังกฤษ แต่รัฐบาลอังกฤษต้องการที่จะทำมากไปกว่านี้ โดยในเดือนนี้เจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลทางวัฒนธรรมจะร่วมประชุมกับบรรดาผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต เราจะดูแลปัญหาที่ถูกหยิบยกมาในจดหมายฉบับนี้”