เอเจนซีส์ - เกิดเหตุไฟไหม้โรงงานชำแหละสัตว์ปีกทางตะวันออกเฉียงเหนือของจีนเมื่อวันจันทร์ (3 มิ.ย.) มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 119 ราย และยังสูญหายอีกจำนวนมาก นับเป็นอัคคีภัยครั้งร้ายแรงที่สุดของแดนมังกรในรอบ 12 ปี เรียกเสียงวิจารณ์เซ็งแซ่ในสังคมออนไลน์เรื่องความหย่อนยานของระบบความปลอดภัยในสถานที่ทำงานของจีน
เหตุการณ์เพลิงไหม้ครั้งนี้เกิดขึ้นตอนประมาณ 06.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น ในโรงงานชำแหละสัตว์ปีกใกล้เมืองเต๋อฮุ่ย มณฑลจี๋หลิน โดยรัฐบาลท้องถิ่นของจี๋หลินได้ส่งเจ้าหน้าที่ดับเพลิงกว่า 500 คน รวมทั้งแพทย์และพยาบาลกว่า 270 คนเข้าไปปฏิบัติหน้าที่ รวมทั้งสั่งอพยพประชาชน 3,000 คนในบริเวณใกล้เคียงเพื่อเป็นมาตรการระวังภัยล่วงหน้า
สำนักข่าวซินหวาของทางการจีนรายงานว่า ขณะเกิดเหตุมีพนักงานอยู่ในโรงงานกว่า 300 คน และผู้อยู่ในเหตุการณ์เล่าว่า ได้ยินเสียงดังก่อนเห็นควันดำ
รายงานยังระบุว่า มีพนักงานหนีออกมาได้ราว 100 คน ขณะที่ประตูโรงงานถูกปิดล็อก
“โครงสร้างภายในอันซับซ้อนของอาคารสำเร็จรูป ประกอบกับทางออกคับแคบ ทำให้ปฏิบัติการกู้ภัยยากลำบากยิ่งขึ้น” ซินหวาระบุ พร้อมกับเสริมว่ายังไม่สามารถระบุตัวเลขผู้สูญหายอย่างชัดเจนได้ ขณะที่รัฐบาลจี๋หลินรายงานว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บและถูกนำส่งโรงพยาบาล 54 คน
แม้ยังไม่รู้สาเหตุที่แน่ชัดของเพลิงไหม้ แต่สถานีโทรทัศน์ส่วนกลางของทางการจีน (ซีซีทีวี) รายงานโดยอ้างคำบอกเล่าของผู้เห็นเหตุการณ์ว่าได้ยินเสียงระเบิด และสงสัยว่าอาจเกิดจากสารเคมีรั่วไหล ซีซีทีวียังรายงานบนเว่ยป๋อ หรือทวิตเตอร์ภาคภาษาจีนว่า ต้นเหตุอาจมาจากประกายไฟฟ้าในโรงงาน
ด้านสถานีทีวีฟินิกซ์ของฮ่องกงรายงานโดยอ้างการเปิดเผยของสมาชิกครอบครัวคนงานว่า ประตูโรงงานดังกล่าวล็อกตลอดเวลาระหว่างชั่วโมงการทำงาน โดยพนักงานไม่ได้รับอนุญาตให้ออกจากโรงงาน และโรงงานไม่เคยมีการซ้อมหนีไฟมาก่อน
อุบัติเหตุครั้งนี้ตอกย้ำความหละหลวมด้านระบบรักษาความปลอดภัยของจีน ตามโรงงานต่างๆ ทางหนีไฟมักปิดล็อกหรือมีสิ่งกีดขวาง ขณะที่ไม่มีการบังคับใช้กฎระเบียบด้านความปลอดภัยอย่างเคร่งครัด ส่วนหนึ่งเนื่องจากเจ้าหน้าที่รับสินบน
ภาพในสื่อสังคมของจีนเผยให้เห็นควันไฟพวยพุ่งสูงจากอาคารขนาดเตี้ยๆ ขณะที่หลังคาถูกเผาเกือบทั้งหมด โดยมีอุปกรณ์ดับเพลิงและรถของหน่วยกู้ภัยจอดเรียงรายอยู่ด้านหน้า
โรงงานที่เกิดเหตุเป็นของบริษัทผลิตอาหารสัตว์และผลิตภัณฑ์จากสัตว์ปีกขนาดเล็กที่ชื่อว่า จี๋หลิน เป่าหยวนเฟิง โพลทรี คอมปานี ซึ่งว่าจ้างพนักงาน 1,200 คน และผลิตพวกผลิตภัณฑ์จากเนื้อไก่ 67,000 ตันต่อปี เหตุการณ์นี้ถือเป็นอัคคีภัยครั้งรุนแรงที่สุดของจีนในรอบ 12 ปี
ชาวจีนจำนวนมากมายพากันระบายความไม่พอใจผ่านเครือข่ายสังคม
“หน่วยงานความปลอดภัยไปตรวจสอบโรงงานแห่งนั้นสม่ำเสมอหรือเปล่า” ผู้ใช้คนหนึ่งโพสต์ในเวยป๋อ ขณะที่ผู้ใช้อีกคนโพสต์ว่า “เจ้าหน้าที่อาวุโสสมควรถูกปลดจากเหตุการณ์นี้”
ขณะเดียวกัน ญาติพี่น้องของเหยื่อรวมตัวกันเรียกร้องให้รัฐบาลตรวจสอบและเปิดเผยสาเหตุของอุบัติเหตุโดยเร็วที่สุด
ย้อนกลับไปเมื่อ 5 ปีที่แล้ว เกิดเหตุไฟไหม้ไนท์คลับในเซินเจิ้น มีผู้เสียชีวิต 44 ราย ตำรวจอาวุโสผู้หนึ่งถูกจำคุกข้อหารับสินบนและปล่อยให้ไนต์คลับดังกล่าวเปิดบริการทั้งที่ไม่มีใบอนุญาต
สำหรับอัคคีภัยครั้งร้ายแรงที่สุดในจีนยุคใหม่ เกิดขึ้นเมื่อปลายปี 2000 ในดิสโก้เทคแห่งหนึ่งกลางเมืองลั่วหยาง มีผู้เสียชีวิต 309 คน
ขณะที่อุบัติเหตุจากอุตสาหกรรมที่ร้ายแรงในจีนส่วนใหญ่เกิดขึ้นในอุตสาหกรรมเหมืองถ่านหิน ทั้งนี้เฉพาะปีที่แล้วมีผู้เสียชีวิตจากเหตุเหมืองระเบิด คนงานติดอยู่ในถ้ำ และน้ำท่วมกว่า 1,300 คน
