เอเอฟพี - ทองคำและวอลล์สตรีทปรับลดพอประมาณวานนี้ (22) หลังประธานเฟดแย้มอาจยุติมาตรการผ่อนคลายทางการเงินเชิงปริมาณกระตุ้นเศรษฐกิจเร็วๆ นี้ ขณะที่ปัจจัยดังกล่าวประกอบกับข้อมูลสต๊อกเชื้อเพลิงสหรัฐฯ ก็ฉุดให้ราคาน้ำมันดิ่งลงแรง
สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน ลดลง 1.90 ดอลลาร์ ปิดที่ 94.28 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 1.31 ดอลลาร์ ปิดที่ 102.60 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
รายงานของกระทรวงพลังงานสหรัฐฯ ระบุว่า คลังน้ำมันดิบสำรองของประเทศเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แม้จะลดลง 300,000 บาร์เรล แต่ก็น้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดหมายไว้ถึงเท่าตัว ขณะที่สต๊อกเบนซินก็เพิ่มขึ้นถึง 3 ล้านบาร์เรล สวนทางกลับที่คาดหมายไว้ บ่งชี้ถึงอุปสงค์อันอ่อนแอภายในชาติผู้บริโภคยักษ์ใหญ่ของโลกแห่งนี้
ขณะเดียวกันนักวิเคราะห์มองว่าอีกปัจจัยที่กดดันราคาน้ำมันวานนี้ (22) คือสารจากเบน เบอร์นันกี ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ที่แม้จะย้ำกับสภาคองเกรสว่าด้วยสภาวะทางเศรษฐกิจของประเทศในตอนนี้ ยังไม่มีเหตุผลพอที่จะยุติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเชิงรุกของธนาคาร แต่ก็แบะท่าไว้ว่าเฟดอาจมีมติยกเลิกโครงการดังกล่าวในที่ประชุมคราวต่อไปๆ หากเห็นว่าเศรษฐกิจดีขึ้นแล้ว
ปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ วานนี้ (22) ขยับลงพอสมควรท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน ขณะที่นักลงทุนชั่งน้ำหนักสัญญาณที่ออกมาจากปากของประธานธนาคารกลาง
ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ ลดลง 81.18 จุด (0.53 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 15,306.40 จุด แนสแดค ลดลง 38.82 จุด (1.11 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 3,463.30 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 13.86 จุด (0.83 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,655.30 จุด
วอลล์สตรีทเคลื่อนไหวในแดนบวกในตอนเช้า ด้วยความคาดหมายในแง่ดีก่อนหน้า เบอร์นันกีจะเข้าให้ปากคำด้านเศรษฐกิจกับสภาคองเกรส แต่สุดท้ายก็ปรับลดลง หลังจากประธานแบงค์ชาติอเมริการายนี้ บ่งชี้ว่าอาจมีการถอนสมอโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจเร็ววันนี้
ขณะเดียวกันความกังวลว่าธนาคารกลางอเมริกาจะสิ้นสุดนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจเชิงรุกนี้ ก็ฉุดให้ราคาทองคำปิดลบแรง โดยทองคำตลาดโคเมกซ์ของสหรัฐฯ ลดลง 10.20 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,367.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์