เอเจนซีส์ - “โอบามา” ประกาศภาวะภัยพิบัติร้ายแรงในมลรัฐโอกลาโฮมา ที่ถูกพายุหมุนทอร์นาโดขนาดยักษ์ที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางกว่า 3 กิโลเมตรพัดถล่ม ส่งผลให้มีผู้ติดอยู่ใต้ซากปรักหักพังจำนวนมาก โรงเรียนประถมแห่งหนึ่งราบเป็นหน้ากลอง และอีกแห่งได้รับความเสียหาย คาดมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 91 คน ในจำนวนนี้เป็นเด็กถึง 20 คน
ประธานาธิบดี บารัค โอบามา ประกาศภาวะภัยพิบัติร้ายแรงในโอกลาโฮมา พร้อมสั่งหน่วยงานต่างๆ ของรัฐบาลกลางให้ความช่วยเหลือแก่รัฐดังกล่าว ขณะที่เจ้าหน้าที่ฉุกเฉินเร่งค้นหาผู้รอดชีวิตใต้ซากโรงเรียนประถมพลาซา ทาวเวอร์ส ที่ถูกพายุทอร์นาโดยักษ์ลูกนี้ถล่มรุนแรงเมื่อบ่ายวันจันทร์ (20)
บนหน้าเฟซบุ๊กของโรงเรียนแห่งนี้เต็มไปด้วยข้อความแสดงความเสียใจและเศร้าโศกจากทั่วอเมริกา
แบรร์วูด โรงเรียนประถมอีกแห่งได้รับความเสียหายเช่นกัน แต่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บร้ายแรง
นอกจากนั้นบ้านเรือนมากมายและโรงพยาบาลแห่งหนึ่งก็ถูกพายุหมุนลูกนี้โจมตีได้รับความเสียหาย ทิ้งให้ชาวเมืองมัวร์ เมืองเล็กๆ ที่มีประชากรราว 60,000 คน และตั้งอยู่ชานนครโอกลาโฮมาซิตี เมืองหลวงของมลรัฐแห่งนี้ ต่างตกตะลึงพรึงเพริดกับอานุภาพการทำลายล้างของพายุ
หน่วยงานชันสูตรศพในโอกลาโฮมาเผยว่า ผู้ที่คาดว่าเสียชีวิตจำนวน 20 จาก 91 รายเป็นเด็ก และหลายคนอายุไม่เกิน 12 ปี โดยที่มีการยืนยันจำนวนผู้เสียชีวิตอย่างแน่นอนแล้ว 51 ราย ทั้งนี้หน่วยฉุกเฉินคาดว่า จะพบร่างผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 40 ศพในซากอาคารบ้านเรือน
ขณะที่โรงพยาบาลในพื้นที่เผยว่า ผู้ได้รับบาดเจ็บมีอย่างน้อย 240 คน ในจำนวนนี้ 60 คนเป็นเด็ก
ในเมืองมัวร์เต็มไปด้วยซากปรักหักพัง สัญญาณจราจรบนท้องถนนปลิวหาย บ้านเรือนถูกทำลาย รถยนต์กองซ้อนทับกันราวกับของเล่น บนท้องถนนผู้คนมากมายขุดค้นซากบ้านของตัวเอง ขณะที่ประชาชนราว 35,000 คนยังคงไม่มีไฟฟ้าใช้ในช่วงเช้าวันอังคาร (21)
หน่วยกู้ภัยค้นหาผู้รอดชีวิตในกองซากปรักหักพังกระทั่งล่วงเข้าเช้าวันอังคาร ขณะที่มีการออกประกาศเตือนภัยพายุรุนแรงในหลายมลรัฐที่อยู่ในพื้นที่ราบภาคกลางของสหรัฐฯ และคาดว่าสภาพอากาศจะเลวร้ายตลอดคืนวันจันทร์ในแถบเกรตเลคส์จนถึงเทกซัส
สำนักงานบริการด้านภูมิอากาศแห่งชาติของสหรัฐฯ ระบุว่าพายุทอร์นาโดลูกนี้มีความรุนแรงอยู่ที่ระดับ EF4 ซึ่งห่างจากความรุนแรงระดับสูงสุดเพียงขั้นเดียว โดยในระดับ EF4 นี้ความเร็วลมของพายุอาจจะสูงถึง 320 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ในตัวเมืองโอกลาโฮมาซิตี มีเสียงไซเรนเตือนภัยดังอย่างน้อย 3 ครั้ง และทางหลวงระหว่างรัฐหมายเลข 35 ถูกสั่งปิด โดยอนุญาตให้รถฉุกเฉินใช้งานเท่านั้น
ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า พายุทอร์นาโดที่เกิดขึ้นเมื่อวันจันทร์ดูเหมือนร้ายแรงกว่าพายุใหญ่ที่ถล่มโอกลาโฮมาเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 1999 ที่มีผู้เสียชีวิตกว่า 40 คน และทำให้บ้านเรือนเสียหายหลายพันหลัง โดยพายุดังกล่าวอยู่ในระดับ EF5 มีความเร็วลมกว่า 320 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และถือเป็นพายุทอร์นาโดที่สร้างความเสียหายอันดับ 3 ในประวัติศาสตร์ของอเมริกา โดยสร้างความสูญเสียกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์ในขณะนั้น หรือกว่า 1,300 ล้านดอลลาร์หากคิดเป็นค่าเงินปัจจุบัน สำหรับอันดับ 1 และ 2 คือทอร์นาโดจ็อบลินและทัสคาลูซาในปี 2011
ขณะเดียวกัน สำนักงานบริหารการบินแห่งชาติของสหรัฐฯ (เอฟเอเอ) ประกาศจำกัดการบินชั่วคราวในพื้นที่ประสบภัย โดยอนุญาตเฉพาะเครื่องบินบรรเทาทุกข์ ตามคำขอของตำรวจที่ต้องการเร่งค้นหาผู้รอดชีวิต
ทางด้านมลรัฐโอกลาโฮมาขอให้กองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิร่วมปฏิบัติการกู้ภัย ขณะที่สำนักงานบริหารภาวะฉุกเฉินแห่งชาติจัดทีมให้การสนับสนุนปฏิบัติการกู้ภัยและประสานงานกับหน่วยงานอื่นๆ เช่นเดียวกัน
ที่ผ่านมาเส้นทางของพายุทอร์นาโดมักอยู่ในพื้นที่ราบกว้างขวางของโอกลาโฮมา แต่ทอร์นาโดเมื่อวันจันทร์ พายุได้พัดถล่มใส่บริเวณตัวเมืองที่มีผู้อาศัยหนาแน่น จึงทำให้มีความกังวลว่า จะมียอดผู้เสียชีวิตจำนวนมาก
