เอเอฟพี/เอเจนซี - ราคาน้ำมันทรุดลงพอสมควรและทองคำวานนี้ (13) ขยับลงเล็กน้อย เหตุดอลลาร์อ่อนค่าและข้อมูลทางเศรษฐกิจอันซึมเซาของสหรัฐฯ กับจีน โดยปัจจัยหลังนี้ก็ฉุดให้วอลล์สตรีทปิดในกรอบแคบๆ เท่านั้น
สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน ลดลง 87 เซ็นต์ ปิดที่ 95.17 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 1.09 ดอลลาร์ ปิดที่ 102.82 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ข้อมูลทางเศรษฐกิจ 3 ชุดของจีน อันประกอบด้วยผลผลิตอุตสาหกรรม ยอดค้าปลีกและการลงทุนในสินทรัพย์ถาวร สร้างความกังวลต่ออัตราการเติบโตของชาติเศรษฐกิจหมายเลข 2 ของโลก
ขณะเดียวกัน ในสหรัฐฯ ชาติผู้บริโภคน้ำมันดิบรายใหญ่ที่สุดของโลก จากข้อมูลอย่างเป็นทางการก็พบว่ายอดค้าปลีกเดือนเมษายนเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แม้จะดีกว่านักวิเคราะห์คาดหมายไว้ แต่สินค้าคงคลังภาคธุรกิจ ประจำเดือนมีนาคม อยู่ในระดับแค่ทรงตัว
นักวิเคราะห์มองว่า อีกปัจจัยที่ซ้ำเติมราคาน้ำมัน ก็คือความวิตกต่อรายงานคลังน้ำมันดิบสำรองของสหรัฐฯ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ที่พบว่าเพิ่มขึ้นจากหนึ่งปีก่อนถึงร้อยละ 4.2 แตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนเมษายน 1981 ขณะเดียวกัน ด้วยดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นก็ส่งผลกระทบต่ออุปสงค์ทางพลังงานของผู้ซื้อที่ถือสกุลเงินอื่นๆ
ทั้งนี้ ปัจจัยดอลาร์แข็งค่าอย่างมากเมื่อเทียบกับเยนญี่ปุ่นและสกุลเงินหลักอื่นๆ ก็ส่งผลให้ราคาทองคำวานนี้ (13) ปิดในแดนลบ โดยทองคำตลาดโคเมกซ์ของสหรัฐฯ ลดลง 2.30 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,434.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ วานนี้ (13) ทรงตัว โดยตลาดตกอยู่ภายใต้เงาทะมึนของข้อมูลทางเศรษฐกิจอันย่ำแย่ของจีนและยอดค้าปลีกของสหรัฐฯ ที่ปรับขึ้นเพียงเล็กน้อย ตามที่กล่าวไว้ข้างต้น
ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ ลดลง 26.81 จุด (0.81 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 15,091.68 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 2.21 จุด (0.06 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 3,438.79 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 0.07 จุด (0.00 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,633.77 จุด