การศึกษาชี้ : วัยรุ่นอเมริกันตายขณะ “แชตเฟซบุ๊กตอนขับรถ” มากกว่า “เมาแล้วขับ”

เอเจนซีส์ - นักวิจัยชี้ว่าวัยรุ่นอเมริกันมากกว่า 3,000 ราย ต่อปี เสียชีวิตเพราะการเล่นเฟซบุ๊ก หรือแชตบีบีขณะขับรถ

การศึกษาครั้งใหม่พบว่า จำนวนการเสียชีวิตของวัยรุ่นในอเมริกาที่ใช้มือถือส่งขอความขณะขับขี่มียอดพุ่งสูงอย่างน่าตกใจเมื่อเทียบกับการเสียชีวิตจากการเมาและขับ

จากรายงานวิจัยโดยศูนย์การแพทย์เด็กโคเฮน ที่นิว ไฮเดปาร์ก รัฐนิวยอร์ก พบว่าวัยรุ่นชาวอเมริกันมากกว่า 3,000 รายต่อปี ถูกคร่าชีวิตขณะแชตส่งข้อความขณะขับรถมากกว่าเมาแล้วขับที่มีจำนวนยอดวัยรุ่นเสียชีวิตประมาณ 2,700 รายต่อปี

ถึงแม้ว่าจะมีการแคมเปญรณรงค์อย่างหนักทั่วประเทศ รวมถึงการเสวนาระดับประเทศถึงอันตรายในการใช้โทรศัพท์มือถือขณะขับรถ การวิจัยกลับเปิดเผยตัวเลขที่น่าตกใจว่า 50% ของนักเรียน ม.ปลายชายแชตส่งข้อความขณะขับรถ และอีก 50% ของนักเรียน ม.ปลายหญิงยอมรับว่าส่งข้อความทางโทรศัพท์ขณะอยู่หลังพวงมาลัยรถ แคโรล์น กูซอฟจากช่อง CBS2 รายงาน

“ในความเป็นจริงเด็กวัยรุ่นพวกนั้นไม่ได้ดื่มเหล้า 7 วันต่อสัปดาห์ แต่ว่าพวกเขาพกโทรศัพท์มือตลอดและแชตส่งข้อความหากันทุกวัน เพราะอย่างนั้นคุณรู้ได้เองเลยว่าไอ้ตัวเลขนี้มันปกติ” นพ.แอนดรูว์ แอเดสแมน หัวหน้าแผนกการพัฒนาพฤติกรรมของเด็กแห่งศูนย์การแพทย์เด็กโคเฮนเผยต่อ CBS2

แอเดสแมนเปิดเผยต่อไปว่า เขาพบว่ากฎหมายห้ามการส่งข้อความทางโทรศัพท์ขณะขับรถไม่สามารถบังคับใช้เท่าที่ควร จากการสำรวจจะเห็นได้ว่า 75% ของวัยรุ่นชายยอมรับว่าพวกเขาแชตมือถือระหว่างขับในมลรัฐที่มีกฎหมายห้ามการใช้มือถือส่งข้อความขณะขับรถอยู่ และอีก 59% ยอมรับว่าพวกเขาทำในรัฐที่ไม่มีกฎหมายห้ามบังคับใช้

จากสถิติบ่งชี้ว่าถ้าผู้ขับขี่ส่งข้อความจากโทรศัพท์มือถือขณะขับรถ ผู้ขับขี่จะมีโอกาสเสี่ยงมากกว่า 23 เท่าที่จะประสบอุบัติเหตุบนท้องถนน