เอเอฟพี - บังกลาเทศสั่งปิดโรงงานสิ่งทอ 18 แห่ง สืบเนื่องจากเหตุผลด้านความปลอดภัย ตามหลังกรณีอาคารหลังหนึ่งชานกรุงธากา ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงงาน 5 แห่งเกิดพังถล่มและคร่าชีวิตคนงานไปมากกว่า 800 ศพ
ความเคลื่อนไหวครั้งนั้มีขึ้นไม่กี่วันหลังจากบังกลาเทศเห็นพ้องกับองค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ไอแอลโอ) ว่าความปลอดภัยคือสิ่งที่ต้องคำนึงถึงสูงสุดท่ามกลางความหวาดวิตกของรัฐบาลว่าบริษัทเสื้อผ้าแบนด์แนมชาติตะว้นตกอาจเริ่มหันไปหาแหล่งสินค้าจากประเทศอื่นๆ แทน
“มีคำสั่งปิดโรงงาน 16 แห่งในกรุงธากา และอีก 2 แห่งที่เมืองจิตตะกอง อับดุล ลาทีฟ ซิดดิเก รัฐมนตรีอุตสาหกรรมสิ่งทอบอกกับผู้สื่อข่าว พร้อมระบุว่ายังมีโรงงานอื่นๆ ที่อาจถูกปิดเพิ่มเติม ส่วนหนึ่งในมาตรการใหม่สำหรับรับประกันความปลอดภัย
เราจะทำให้แน่ใจว่าโรงงานต่างๆ จะดำเนินการตามข้อกำหนดขององค์การแรงงานระหว่างประเทศ" ซิดดิเกกล่าว ทั้งนี้นายซิดดิเก เพิ่งได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการที่มีอำนาจเหลือล้นในการตรวจสอบโรงงานสิ่อทอ 4,500 แห่งทั่วประเทศ ในความพยายามหลีกเลี่ยงหายนะรอบใหม่
ยอดผู้เสียชีวิตที่ได้รับการยืนยันจากหายนะทางอุตสาหกรรมครั้งเลวร้ายของบังกลาเทศ เหตุอาคารรานา พลาซา พังถล่ม จนถึงวันพุธ (8) อยู่ที่ 803 คน หลังจากทีมกู้ภัยสามารถดึงศพออกจากซากหักพังของอาคาร 9 ชั้นแห่งนี้ได้เพิ่มเติม
มีคนงานมากกว่า 3,000 คนที่กำลังเข้ากะตามโรงงานต่างๆ ในช่วงที่อาคารรานา พลาซ่า พังถล่มเมื่อวันที่ 24 เมษายน ขณะที่ยอดรวมของผู้ที่ได้รับความช่วยเหลือออกมาจากซากหักพังอยู่ที่ 2,437 คน
นายพลจัตวา ซิดดิกุล อาลาม ซิคเดอร์ บอกกับเอเอฟพีว่ายังได้กลิ่นเหม็นคลุ้งของซากศพโชยออกมาจากชั้นล่างๆ และใต้คาน บ่งชี้ว่ายอดผู้เสียชีวิตอาจพุ่งสูงกว่านี้ “เราคาดหมายว่าน่าจะพบศพเพิ่มเติม เพราะเรายังลงไปไม่ถึงชั้นล่างสุด ตอนนี้งานของเราเพิ่งลุล่วงไปได้แค่ 70 เปอร์เซ็นต์” ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ยอมรับว่าการระบุเอกลักษณ์บุคคลก็เจออุปสรรค เหตุเพราะซากศพเหล่านั้นเน่าเปื่อย ทำให้การดำเนินการเป็นไปอย่างยากลำบาก