xs
xsm
sm
md
lg

ตำรวจพบ “3 สาวมะกัน” ยังมีชีวิตอยู่ใน “คลีฟแลนด์” หลังสูญหายไร้ร่องรอย 10 ปี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

จีนา เดอจีซัส (ซ้าย) และ อแมนดา เบอร์รี หญิงสาว 2 ใน 3 คนที่ได้รับการช่วยเหลือออกมาจากบ้านหลังหนึ่งในเมืองคลีฟแลนด์ มลรัฐโอไฮโอ หลังพวกเธอหายตัวไปนานถึง 10 ปี
เอเจนซีส์/ASTVผู้จัดการออนไลน์ - ตำรวจสหรัฐฯ เข้าจับกุมชายสามพี่น้องซึ่งอาศัยอยู่ในเมืองคลีฟแลนด์ มลรัฐโอไฮโอ หลังเพื่อนบ้านพบหญิงสาว 3 รายที่สูญหายไปนานถึง 10 ปีถูกกักขังอยู่ในบ้านของพวกเขา ทางการสหรัฐฯ แถลงวานนี้ (7)

จุดพลิกผันของคดีคนหายนี้เริ่มต้นขึ้นเมื่อหญิงสาว 1 ใน 3 คนพยายามร้องขอความช่วยเหลือจนเพื่อนบ้านพลเมืองดีสามารถพังประตูเข้าไปพาตัวเธอออกมาจากบ้านหลังหนึ่งบนถนนเซย์เมอร์ อเวนิว ซึ่งเป็นชุมชนผู้ใช้แรงงาน

ทางการสหรัฐฯ ระบุว่า คงต้องใช้เวลาพอสมควรกว่าสังคมจะได้ทราบรายละเอียดของการลักพาตัว ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่จากสำนักงานสอบสวนกลาง (เอฟบีไอ) อยู่ระหว่างสอบถามความจริงจากหญิงสาวทั้ง 3 ราย ซึ่งได้แก่ อแมนดา เบอร์รี, จีนา เดอจีซัส และมิเชล ไนต์

ตำรวจยืนยันว่า เบอร์รี วัย 27 ปี มีบุตรสาวอายุ 6 ขวบคนหนึ่ง ซึ่งน่าจะเกิดระหว่างที่มารดาถูกกักขัง

หญิงชาวโอไฮโอทั้งสามถูกคนร้ายลักพาตัวเมื่อปี 2002, 2003 และ 2004 และมาถูกพบอยู่รวมกันในบ้านของเอเรียล คาสโตร วัย 52 ปี ซึ่งอยู่ไม่ไกลนักจากจุดที่พวกเธอหายตัวไป

คาสโตร และพี่น้องของเขาอีก 2 คน คือ เปโดร วัย 54 ปี และโอนีล วัย 50 ปี ถูกตำรวจควบคุมตัวไว้แล้ว และขณะนี้ยังไม่ทราบสาเหตุว่าหญิงสาวทั้ง 3 คนถูกลักพาตัวไปด้วยจุดประสงค์ใด

ชาวเมืองคลีฟแลนด์ต่างโล่งอกที่เหตุการณ์นี้จบลงได้ด้วยดี โดย เบอร์รี, เดอจีซัส และไนต์ เดินทางออกจากโรงพยาบาลแล้ว เมื่อช่วงเช้าวานนี้ (7)

“คำอธิษฐานเป็นจริงแล้วสำหรับครอบครัวของอแมนดา, จีนา และมิเชล... ฝันร้ายได้สิ้นสุดลงแล้ว หญิงสาวทั้ง 3 คนทำให้เรารู้ความหมายที่แท้จริงของการอยู่รอดและความพยายาม หลังจากนี้จะเข้าสู่ขั้นตอนการเยียวยา” สตีฟ แอนโธนี เจ้าหน้าที่เอฟบีไอ แถลงต่อสื่อมวลชน

ตำรวจเมืองคลีฟแลนด์เคยมาที่บ้านหลังนี้แล้ว 2 ครั้ง ครั้งแรกเมื่อปี 2000 เนื่องจาก เอเรียล คาสโตร ซึ่งเป็นเจ้าของบ้านโทรศัพท์ไปแจ้งว่าเกิดการต่อสู้กันบนถนน และครั้งที่สองเมื่อปี 2004 หลังจากที่คาสโตรซึ่งมีอาชีพเป็นคนขับรถโรงเรียน เผลอทิ้งเด็กไว้บนรถขณะนำรถเข้าไปจอดเก็บ

รองผู้บัญชาการตำรวจ เอ็ด ทอมบา ให้สัมภาษณ์ว่า สังคมจะได้ทราบสิ่งที่เกิดขึ้นภายในบ้านตลอด 10 ปีที่ผ่านมา ผ่านการบอกเล่าของหญิงสาวทั้ง 3 คน

“แน่นอนว่าไม่มีใครพบเห็นพวกเธอมานานมาก ดังนั้นเราคงต้องสอบถามจากเธอ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเธอจะยอมบอกความจริง เพราะมีแต่พวกเธอเท่านั้นที่อยู่กับผู้ต้องสงสัย” ทอมบากล่าว

ฝันร้ายของสตรีทั้งสามสิ้นสุดลง เมื่อ เบอร์รี ซึ่งถูกลักพาตัวไปเมื่อ 10 ปีก่อนตั้งแต่อายุเพียง 16 ปี พยายามยื่นแขนผ่านรอยแตกตรงประตูหน้าบ้านและร้องขอความช่วยเหลือ

ชาร์ลส แรมซีย์ เพื่อนบ้านผู้ได้ยินเสียงร้องของเธอ บอกกับสื่อท้องถิ่นในเครือเอบีซีนิวส์ว่า “ผมยืนอยู่ที่เฉลียงหน้าบ้าน จากนั้นก็ได้ยินเธอพูดว่าช่วยฉันออกไปที ฉันติดอยู่ที่นี่ตั้งนานแล้ว”

แรมซีย์พยายามเปิดประตูเพื่อช่วยเธอแต่ไม่สำเร็จ จึงใช้เท้าเตะส่วนล่างของประตูจนแตกเป็นช่อง จากนั้น เบอร์รี ก็คลานออกมาพร้อมกับเด็กหญิงเล็กๆ คนหนึ่ง ซึ่งตำรวจยืนยันภายหลังว่าเป็นบุตรสาวของเธอเอง แต่ยังไม่ทราบว่าพ่อเด็กเป็นใคร

เบอร์รีโทรศัพท์แจ้งตำรวจว่ายังมีหญิงสาวอีก 2 คนถูกขังอยู่ในบ้านหลังนี้ด้วย

เดอจีซัส หายตัวไปขณะกำลังเดินจากโรงเรียนกลับบ้านเมื่อวันที่ 2 เมษายน ปี 2004 ขณะนั้นเธออายุเพียง 14 ปี ส่วน ไนต์ ซึ่งถูกลักพาตัวเมื่ออายุ 20 ปี ถูกพบเห็นครั้งสุดท้ายที่บ้านญาติ เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม ปี 2002
จุดที่ อแมนดา, จีนา และมิเชล ถูกพบเห็นครั้งสุดท้าย เมื่อหลายปีก่อน
อแมนดา เบอร์รี (กลาง) ได้พบหน้าน้องสาวของเธออีกครั้งที่โรงพยาบาล เมื่อวันจันทร์(6)
บ้านของ เอเรียล คาสโตร วัย 52 ปี ซึ่งเป็นที่กักขังสามสาว
กำลังโหลดความคิดเห็น