จนท.อินเดียต้องสั่งปิดสวนสัตว์ หลังมีเสือจากป่าเพ่นพ่านหาคู่

บีบีซี - เจ้าหน้าที่อินเดียต้องปิดบริการสวนสัตว์แห่งหนึ่ง เหตุมีเสือตัวผู้จากป่าตัวหนึ่งหลุดเข้ามาในอุทยาน หลังมันด้อมๆมองๆอยู่รอบๆมานานหลายเดือนจนก่อความตื่นตระหนกไปทั่ว คาดคงย่องมาหาเสือตัวเมียเพื่อผสมพันธุ์

เสือตัวดังกล่าวย่องเข้าไปยังสวนสัตว์นันดันกานาน รอบนอกเมืองภูพเนศวร ในรัฐโอริสสา ทางตะวันออกของอินเดีย เมื่อค่ำคืนวันจันทร์(30เม.ย.) โดยเจ้าหน้าที่เผยว่ามันเดินวนอยู่รอบๆกรงของเจ้า "ซารา" เสือตัวเมีย บ่งชี้ว่ามันอยากมีคู่

รายงานข่าวระบุว่าเสือตัวดังกล่าวก่อความตื่นตระหนกแก่สวนสัตว์เป็นอย่างมาก หลังจากพบเห็นมันด้อมๆมองๆอยู่ใกล้สวนสัตว์เปิดแห่งนี้มานานหลายเดือน จนเจ้าหน้าที่ต้องตัดสินใจเปิดประตูฉุกเฉินปล่อยให้มันเข้ามาและติดตามความเคลื่อนไหวอย่างใกล้ชิดผ่านกล้องวงจรปิดความละเอียดสูง

เจ้าหน้าที่พิทักษ์สัตว์ป่าเผยว่า ณ ตอนนี้กำลังถกเถียงกันว่าจะยอมให้เสือตัวนี้ใช้ชีวิตในสวนสัตว์ต่อไปหรือติดสัญญาณวิทยุแล้วปล่อยมันกลับคืนสู่ป่า

"การติดสัญญาณวิทยุบนตัวเสือ จะช่วยให้เราแกะรอยเสือตัวนี้ยามที่มันคืนสู่ถิ่นฐานเดิมและเราก็จะสามารถติดตามความเคลื่อนไหวของมันได้" เจดี ชาร์เม หัวหน้าศูนย์พิทักษ์สัตว์ป่าโอริสสา บอก

อย่างไรก็ตามความเห็นของเขาถูกแย้งโดยเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสวนสัตว์และเหล่านักเคลื่อนไหว ที่ต้องการเห็นเสืออายุ 7 เดือนตัวนี้อยู่ในสวนสัตว์ต่อไป "หากเสือตัวผู้ตัวนี้ยังคงอยู่ในสวนสัตว์ จะช่วยเพิ่มแหล่งพันธุกรรมให้มีความหลากหลายและซึมซับสายเลือดใหม่ๆเข้าสู่โครงการเพาะพันธุ์และอนุรักษ์เสือของสวนสัตว์" นักเคลื่อนไหวรายหนึ่งกล่าว

เวลานี้สวนสัตว์มีเสืออยู่ 24 ตัว ขณะที่เจ้าหน้าที่เผยว่าเสือตัวผู้ทุกตัวล้วนแต่สืบสกุลจากเสือตัวผู้ตัวหนึ่งซึ่งถูกนำมาไว้ในสวนสัตว์ตั้งแต่ปี 1965

จากการสำรวจประชากรเสือในปี 2011 พบว่าเวลานี้เหลือเสือที่อยู่ตามป่าต่างๆของอินเดียเพียงแค่ 1,700 ตัว ทั้งที่เมื่อหนึ่งศตวรรษก่อนเคยมีเสือในอินเดียอยู่ถึงราวๆ 100,000 ตัว แต่จำนวนของพวกมันก็ลดลงเรื่อยๆในช่วงไม่กี่ทศวรรษที่ผ่านมา สืบเนื่องจากถูกมนุษย์ล่า