เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - รายงานประจำปีฉบับล่าสุด ที่จัดทำโดยศูนย์เฝ้าระวังการบังคับย้ายถิ่นฐานภายในประเทศ (IDMC) ซึ่งเป็นองค์กรในสังกัดสภาผู้ลี้ภัยแห่งนอร์เวย์เผย ขณะนี้มีผู้คนเกือบ 29 ล้านคนทั่วโลกมีสถานะเป็นผู้ที่ถูกบังคับให้อพยพออกจากถิ่นฐานบ้านเรือนของตนเพื่อหนีจากความรุนแรงหรือภัยการสู้รบ ซึ่งในจำนวนนี้ราว 6.5 ล้านคนเป็นผู้ที่ต้องพลัดพรากจากถิ่นฐานของตัวเองในปีที่แล้ว
รายงานข่าวระบุว่า โคลอมเบียยังคงครองแชมป์ในฐานะดินแดนที่มีผู้คนต้องอพยพย้ายถิ่นภายในประเทศมากที่สุดในโลก และเป็นการครองแชมป์เป็นปีที่ 4 ติดต่อกัน ด้วยจำนวนผู้ที่ต้องย้ายถิ่นฐานภายในประเทศระหว่าง 4.9-5.5 ล้านคน ซึ่งในจำนวนดังกล่าวมีราว 230,000 คนที่ต้องอพยพละทิ้งบ้านเรือนของตนในปีที่แล้วเพื่อหนีภัยการสู้รบระหว่างทหารของฝ่ายรัฐบาลกับนักรบของกลุ่มกบฏนิยมซ้ายหลายกลุ่มในประเทศ รวมถึง การออกอาละวาดของแก๊งอาชญากรขนาดใหญ่อย่างขบวนการ “โลส อูราเบโนส”
ส่วนซีเรีย ประเทศอาหรับในภูมิภาคตะวันออกกลางที่ต้องเผชิญกับสงครามกลางเมืองมานานเกินกว่า 2 ปี รั้งอันดับที่ 2 จากรายงานล่าสุด ด้วยจำนวนผู้อพยพย้ายถิ่นภายในประเทศสูงถึง 3 ล้านคน ตามมาด้วยสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก (2.7 ล้านคน) ซูดาน (2.23 ล้านคน) อิรัก (2.1 ล้านคน) โซมาเลีย (1.1-1.36 ล้านคน) และตุรกี (954,000-1.2 ล้านคน) ตามลำดับ
ขณะที่ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มี 3 ประเทศมีรายชื่อติดโผตามรายงานฉบับล่าสุดของ IDMC คือ พม่า (อย่างน้อย 450,000 คน) อินโดนีเซีย (ราว 170,000 คน และฟิลิปปินส์ (อย่างน้อย 1,200 คน) ซึ่งการอพยพย้ายถิ่นฐานของประชากรในทั้ง 3 ประเทศส่วนใหญ่เกิดจากการหนีภัยการสู้รบระหว่างชนกลุ่มน้อยกับรัฐบาล หรือระหว่างกลุ่มกบฏแบ่งแยกดินแดนต่างๆ กับรัฐบาล