เอเอฟพี/เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - รายงานซึ่งอ้างข้อมูลจากสถาบันสถิติแห่งชาติสเปนหรือ “อินสติตูโต นาซิโอนัล เด เอสตาดิสติกา” ในกรุงมาดริด ที่มีการเผยแพร่ในวันพฤหัสบดี (25) ระบุอัตราการว่างงานในแดนกระทิงดุพุ่งสูงสุดทำสถิติใหม่ที่ 27.16 เปอร์เซ็นต์ ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ เพิ่มขึ้นจากระดับ 26.02 เปอร์เซ็นต์เมื่อไตรมาสสุดท้ายของปี 2012 ที่ผ่านมา
ข้อมูลที่มีการเปิดเผยล่าสุดระบุว่า ในไตรมาสแรกมีแรงงานชาวสเปนตกงานเพิ่มขึ้นอีก 237,400 คนส่งผลให้อัตราว่างงานของชาวสเปนในช่วงเดือนมกราคมถึงเดือนมีนาคมของปี 2013 ทำสถิติพุ่งสูงแตะระดับ 27.16 เปอร์เซ็นต์และทำให้ตัวเลขคนว่างงานของประเทศล่าสุดมีมากกว่า 6.2 ล้านคน จากประชากรทั้งหมดราว 47.1 ล้านคน
ก่อนหน้านี้เมื่อวันจันทร์ (22) สถาบันสถิติแห่งชาติของสเปนเพิ่งออกมาเปิดเผยผลสำรวจในอีกประเด็นหนึ่งซึ่งระบุว่า จำนวนผู้ที่มีถิ่นพำนักในสเปนในปีที่ผ่านมาได้ลดลงไปเกือบ 206,000 ราย โดยกลุ่มประชากรที่อพยพมาจากประเทศเอกวาดอร์ และโคลอมเบียในทวีปอเมริกาใต้ เป็นกลุ่มที่ลดจำนวนลงมากที่สุด
ขณะที่พลเมืองของสเปนเองจำนวนไม่น้อยก็ได้อพยพออกจากแผ่นดินเกิดในปีที่ผ่านมา เพื่อไปแสวงหาชีวิตใหม่ที่ดีกว่าในต่างแดน แม้ในขณะนี้จะยังไม่มีการเปิดเผยตัวเลขที่แท้จริงว่าจำนวนของผู้ที่ถือสัญชาติสเปนที่อพยพออกนอกประเทศในปีที่ผ่านมามีจำนวนเท่าใด แต่ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นถือเป็นการลดจำนวนลงของประชากรในสเปนหนแรกนับแต่ที่ทางการแดนกระทิงดุเริ่มมีการเก็บข้อมูลด้านประชากรเมื่อทศวรรษที่ 1990
ด้านอัลเบิร์ต เอสเตเบ ผู้เชี่ยวชาญจากศูนย์ประชากรศึกษาแห่งบาร์เซโลนา ให้ความเห็นว่า ปัญหา “ฟองสบู่แตก” ที่เกิดขึ้นในภาคอสังหาริมทรัพย์และอัตราการว่างงานที่สูงลิ่วของสเปน รวมถึงความไร้เสถียรภาพของภาคธนาคารและสถาบันการเงินในประเทศ กลายเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผู้คนจำนวนมากอพยพออกนอกประเทศ โดยเฉพาะในกลุ่มชาวต่างชาติจากทวีปอเมริกาใต้ และยุโรปตะวันออก ที่เคยมองสเปนว่าเป็น “ดินแดนแห่งโอกาส” และ “สวรรค์ของการจ้างงาน” มาโดยตลอด