เอเอฟพี/เอเจนซีส์/ASTV ผุ้จัดการออนไลน์-ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุน้ำท่วมครั้งใหญ่ในอาร์เจนตินาล่าสุด เพิ่มเป็นอย่างน้อย 56 รายแล้ว ส่งผลให้รัฐบาลภายใต้การนำของประธานาธิบดีหญิงกริสตินา เฟร์นันเดซ เด เคิร์ชเนอร์ ต้องประกาศจัดไว้อาลัยทั่วประเทศนาน 3 วัน
รายงานข่าวระบุว่า ร่างผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่ถูกค้นพบในวันพุธ (3) หลังเกิดฝนตกหนักต่อเนื่องนานเกินกว่า 48 ชั่วโมงจนเกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่ในกรุงบวยโนส ไอเรส เมืองหลวงของประเทศ รวมถึงที่เมืองลา ปลาตา ที่อยู่ใกล้เคียง ขณะเดียวกันมีรายงานว่า น้ำที่ไหลบ่าเข้าท่วมอย่างฉับพลันในบางพื้นที่ส่งผลให้รถยนต์จำนวนมาก จมอยู่ใต้น้ำ ขณะที่ผู้คนจำนวนมากต้องหนีตายอย่างโกลาหลขึ้นไปอยู่บนหลังคาเพื่อความปลอดภัย
สื่อท้องถิ่นรายงานว่าเมืองลา ปลาตาที่เป็นเมืองเอกของจังหวัดบวยโนส ไอเรสถือเป็นจุดที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุด คือ ไม่ต่ำกว่า 48 คน โดยซานติอาโก มาร์โตเรญี เจ้าหน้าที่ระดับสูงของเมืองกล่าวว่า เหตุน้ำท่วมครั้งนี้ ถือเป็นหายนะครั้งใหญ่ พร้อมเผยว่าโรงเรียนและหน่วยราชการจำนวนมากในเมืองยังคงต้องปิดทำการต่อไปอย่างไม่มีกำหนด ท่ามกลางการทำงานอย่างหนักของตำรวจ ทหารและเจ้าหน้าที่กู้ภัย ที่ต้องทำงานแข่งกับเวลาเพื่อค้นหาร่างของผู้เสียชีวิต รวมถึงให้การช่วยเหลือแก่ผู้ประสบภัย ที่ยังรอคอยความช่วยเหลือในพื้นที่ต่างๆ
ด้านประธานาธิบดีกริสตินา เฟร์นันเดซ เด เคิร์ชเนอร์ ผู้นำหญิงซึ่งก้าวขึ้นครองอำนาจตั้งแต่เมื่อปี 2007 ได้เดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์ออกตรวจสภาพความเสียหายและเยี่ยมผู้ประสบภัยในเมืองลา ปลาตา ซึ่งเป็นสถานที่ที่เธอใช้ชีวิตในช่วงวัยเด็ก
ขณะที่นางโอเฟเลีย วิลเอล์ม มารดาของผู้นำอาร์เจนตินา ซึ่งยังคงอาศัยอยู่ในเมืองดังกล่าวก็ได้กลายเป็นผู้ประสบภัยเช่นเดียวกัน ท่ามกลางรายงานข่าวที่ระบุว่า นางวิลเอล์มปฏิเสธที่จะอพยพออกมาจากบ้านของเธอ แม้จะได้รับการร้องขอจากเจ้าหน้าที่กู้ภัย เนื่องจากเป็นห่วงทรัพย์สิน
ขณะเดียวกันประธานาธิบดีหญิงวัย 60 ปี ประกาศจัดการไว้อาลัยให้กับผู้เสียชีวิตจากภัยพิบัติทางธรรมชาติครั้งนี้นาน 3 วันทั่วประเทศ
ด้านสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ซึ่งเป็นชาวอาร์เจนตินา ได้ส่งสาส์นแสดงความเสียพระทัยต่อภัยพิบัติที่เกิดขึ้นไปยังอาร์กบิชอป เมาโร โปลี แห่งบวยโนส ไอเรส
ทั้งนี้ มีรายงานว่า ฝนที่ตกลงมาอย่างหนักในเมืองลา ปลาตา สามารถวัดได้สูงกว่า 40 เซนติเมตร หรือกว่า 16 นิ้ว และยังทำให้ระบบโทรศัพท์ล่ม รวมถึงระบบการจ่ายกระแสไฟฟ้า จนพื้นที่ราวครึ่งหนึ่งของเมืองตกอยู่ในความมืด อย่างไรก็ดี มีรายงานว่า ในบางพื้นที่ของเมืองลา ปลาตา มีน้ำท่วมขังสูงกว่า 2 เมตร
ทางการท้องถิ่นเปิดเผยว่า ขณะนี้มีประชาชนราว 2,500 คนที่ยังคงไม่สามารถกลับไปยังบ้านของตัวเองได้เพราะต้องรอให้ระดับน้ำลดลงก่อน เป็นเหตุให้พวกเขาต้องอาศัยอยู่ในศูนย์พักพิงชั่วคราวที่ตั้งขึ้นในพื้นที่ต่างๆ
