เอเอฟพี/เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุอาคารถล่มในนครดาร์เอสซาลาม เมืองใหญ่อันดับ 1 ของแทนซาเนียทางตะวันออกของทวีปแอฟริกาล่าสุด เพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 34 รายเมื่อวันจันทร์ (1) หลังเจ้าหน้าที่กู้ภัยซึ่งเร่งทำงานอย่างหนักตลอด 24 ชั่วโมง สามารถพบร่างผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม ภายใต้ซากปรักหักพังของอาคารดังกล่าว
รายงานซึ่งอ้างไซดี เม็คกี ซาดิคกี ข้าหลวงประจำภูมิภาคดาร์เอสซาลาม ที่เป็นบ้านของประชากรมากกว่า 2.5 ล้านคน ระบุว่าเจ้าหน้าที่กู้ภัยพบร่างของผู้เสียชีวิตเพิ่มเติมอีก 10 ราย ตั้งแต่ช่วงบ่ายของวันอาทิตย์ (31 มี.ค.) ที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่นส่งผลให้ยอดรวมผู้เสียชีวิตจากเหตุอาคารถล่มดังกล่าวเพิ่มเป็นอย่างน้อย 34 ราย
ข้าหลวงประจำภูมิภาคดาร์เอสซาลามยืนยันว่า เจ้าหน้าที่กู้ภัยจะยังคงเดินหน้าค้นหาร่างของผู้เสียชีวิตต่อไปและมีความหวังจะพบศพเพิ่มเติมอีก ขณะเดียวกันทางตำรวจได้มีการควบคุมตัวผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับโครงการก่อสร้างอาคารหลังดังกล่าว อย่างน้อย 8 รายมาทำการสอบสวนแล้ว
ก่อนหน้านี้ มีรายงานข่าวที่ระบุว่าในช่วงที่เกิดการถล่มของอาคารเมื่อช่วงเช้าของวันศุกร์ (29) มีผู้คนราว 60-70 คน อยู่ในบริเวณรอบอาคารดังกล่าวซึ่งสูง 16 ชั้น และอยู่ระหว่างก่อสร้างในย่านคิซูตูของนครดาร์เอสซาลาม
ด้านแหล่งข่าวซึ่งเป็นหนึ่งในทีมกู้ภัยในพื้นที่ระบุ การทำงานอย่างหนักของเจ้าหน้าที่เป็นเหตุให้พบผู้รอดชีวิตจากภายใต้ซากของอาคารดังกล่าวถึง 18 รายตลอดหลายวันที่ผ่านมา ซึ่งขณะนี้ผู้ที่ถูกช่วยเหลือออกมาทั้งหมดถูกส่งไปอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ในโรงพยาบาลใกล้เคียงแล้ว แต่ความหวังที่จะพบผู้รอดชีวิตเพิ่มเติมเริ่มเลือนลาง ทำให้เจ้าหน้าที่จำเป็นต้องปรับแผนการทำงาน และหันไปมุ่งเน้นการค้นหาร่างผู้เสียชีวิตแทน
ทั้งนี้ สภาพเศรษฐกิจที่เฟื่องฟู เป็นปัจจัยสำคัญที่ผลักดันให้เกิดโครงการก่อสร้างอาคารใหม่ๆ จำนวนมากในดาร์เอสซาลามที่เป็นศูนย์กลางการค้าสำคัญของแทนซาเนียและภูมิภาคแอฟริกาตะวันออก แต่ทว่าการก่อสร้างที่เป็นไปด้วยความเร่งรีบเพื่อให้ทันต่อการแข่งขันทางธุรกิจ ส่งผลให้อาคารสูงหลายแห่งไม่เป็นไปตามมาตรฐานด้านความปลอดภัยรวมถึงอาคารหลังที่เกิดเหตุพังถล่มลงมาล่าสุดซึ่งเป็นโครงการร่วมทุนระหว่างการเคหะแห่งชาติของแทนซาเนียกับบริษัทก่อสร้าง “ลาธา”