เอเอฟพี - ประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ ลั่นวาจาจะเป็นพันธมิตรกับอิสราเอล “ตลอดกาล” และยอมรับได้หากอิสราเอลจะเลือกจัดการภัยคุกคามจากอิหร่านด้วยวิธีการที่เหมาะสม โดยไม่ต้องฟังความเห็นของสหรัฐฯ เสมอไป
ระหว่างการเยือนรัฐยิวอย่างเป็นทางการวานนี้ (20) ประธานาธิบดีสหรัฐฯ พยายามสร้างความเชื่อมั่นต่อเจ้าบ้านว่า วอชิงตันยังมีเจตนารมณ์ที่จะปกป้องความมั่นคงของอิสราเอลเหมือนเดิม หลังมีกระแสความกังขาเกี่ยวกับยุทธศาสตร์ที่โอบามาจะใช้รับมืออิหร่าน
“สหรัฐฯ ภูมิใจที่ได้ยืนหยัดเคียงข้างท่าน ในฐานะพันธมิตรและเพื่อนที่ดีที่สุด” โอบามากล่าวในพิธีต้อนรับ ซึ่งจัดขึ้นที่สนามบินเบน กูเรียน ในกรุงเทลอาวีฟ หลังก้าวลงจากเครื่องบินแอร์ฟอร์ซวันท่ามกลางเสียงประโคมแตรของทหารอิสราเอล
“ความเป็นพันธมิตรของเราทั้งสองจะยั่งยืนตลอดกาล”
การเดินทางเยือนของผู้นำสหรัฐฯ มีขึ้นเพียงไม่กี่วันหลังอิสราเอลสามารถจัดตั้งรัฐบาลผสมชุดใหม่ ซึ่งยังต้องเผชิญสารพันปัญหาท้าทายทั้งเรื่องโครงการนิวเคลียร์อิหร่าน, ภัยคุกคามจากซีเรีย และกระบวนการสร้างสันติภาพกับปาเลสไตน์
“ดีใจเหลือเกินที่ได้กลับมายัง 'แผ่นดิน' (อิสราเอล) อีกครั้งหนึ่ง” โอบามากล่าวเป็นภาษาฮิบรู โดยมีนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู และประธานาธิบดีชิมอน เปเรซ ให้การต้อนรับ
ผู้นำสหรัฐฯ เดินทางไปยังทำเนียบประธานาธิบดีอิสราเอล และทักทายกลุ่มเยาวชนที่มาตั้งแถวต้อนรับอย่างอุ่นหนาฝาคั่ง ก่อนจะสนทนากับเปเรซเป็นเวลาราว 1 ชั่วโมงเกี่ยวกับปัญหาอิหร่าน, การสร้างสันติภาพ และความวุ่นวายทางการเมืองในตะวันออกกลาง
หลังจากนั้น โอบามาได้สนทนากับนายกรัฐมนตรีเนทันยาฮูอีกเป็นเวลาหลายชั่วโมงก่อนจะเปิดแถลงข่าว ซึ่งเขายืนยันว่าสหรัฐฯ ไม่ได้คาดหวังให้อิสราเอลต้องเคารพการตัดสินใจของวอชิงตัน เกี่ยวกับวิธีรับมือความก้าวร้าวของอิหร่าน
“ผมไม่ได้คาดหวังให้ท่านนายกรัฐมนตรีต้องตัดสินใจเรื่องความมั่นคงภายในประเทศของท่าน โดยฟังความเห็นจากชาติอื่น” โอบามาให้คำตอบ เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า เขาได้กดดันให้ผู้นำอิสราเอลยับยั้งคำขู่โจมตีโรงงานนิวเคลียร์ของอิหร่านหรือไม่
แม้โอบามาจะยืนยันว่าอิหร่านไม่มีศักยภาพพอถึงขั้นผลิตอาวุธนิวเคลียร์ได้ “ภายใน 1 ปี” แต่ เนทันยาฮู กลับมั่นใจว่าเตหะรานจะสามารถครอบครองระเบิดนิวเคลียร์ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
ขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีอิสราเอลก็แสดงความเชื่อมั่นว่าโอบามาจะรักษาสัญญาที่จะป้องกันมิให้อิหร่านกลายเป็นมหาอำนาจนิวเคลียร์ได้
“เราเชื่อในนโยบายของสหรัฐฯที่เสนอให้ใช้แนวทางสันติวิธีเป็นอันดับแรก และเชื่อว่ายังมีทางเลือกอื่นๆ (ที่ไม่ใช่การโจมตีทางทหาร)” เปเรซกล่าว ซึ่งนับว่าไม่บ่อยนักที่จะได้ยินถ้อยคำแสดงความมั่นใจจากเจ้าหน้าที่อิสราเอลเช่นนี้
โอบามายังฝากเตือนไปยังประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด แห่งซีเรียว่า การนำอาวุธเคมีออกมาประหัตประหารพลเรือนจะเป็น “ความผิดพลาดอย่างมหันต์” และจะนำไปสู่ “จุดเปลี่ยน” ของสงครามกลางเมืองซีเรีย
“รัฐบาลอัสซาดควรตระหนักว่า พวกเขาจะต้องรับผิดชอบสิ่งที่เกิดขึ้น” โอบามากล่าว หลังรัฐบาลซีเรียและฝ่ายกบฏต่างกล่าวหากันและกันว่าเป็นฝ่ายนำอาวุธเคมีออกมาใช้ที่เมืองอะเลปโป จนมีผู้เสียชีวิตไป 31 ราย
รัฐบาลสหรัฐฯ ยอมรับว่าขณะนี้ยังไม่พบหลักฐานว่ามีการนำอาวุธร้ายแรงดังกล่าวออกมาใช้
โอบามาจะมีการแถลงข่าวร่วมกับประธานาธิบดีมะห์มูด อับบาส แห่งปาเลสไตน์ ที่เมืองรามัลเลาะห์ ในเวลา 09.00 GMT (16.00 น.ตามเวลาในไทย) วันนี้ (21) ซึ่งเขาได้เอ่ยย้ำว่า การเยือนอิสราเอลและปาเลสไตน์มีจุดประสงค์เพื่อรับฟังความคิดเห็นทั้งสองฝ่าย มากกว่าจะเสนอแนะแนวทางใหม่ๆ ในการสร้างสันติภาพ
อย่างไรก็ตาม ผู้นำปาเลสไตน์ยังคาดหวังว่าโอบามาจะช่วยเจรจากับอิสราเอลให้ปล่อยตัวนักโทษชาวปาเลสไตน์กว่า 1,000 คน และปลดล็อกเงินช่วยเหลือราว 700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ