เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - ประธานาธิบดีเบนินโญ “นอยนอย” อากีโน แห่งฟิลิปปินส์ ออกโรงเรียกร้องในวันอาทิตย์ (17) โดยระบุการเจรจาเป็นเพียงหนทางเดียวเท่านั้นที่จะแก้ปัญหาความขัดแย้งกรณี “สุลต่านแห่งซูลู” อ้างสิทธิเหนือแคว้นซาบาห์ของมาเลเซีย
ผู้นำฟิลิปปินส์ วัย 53 ปี ซึ่งก้าวขึ้นครองอำนาจตั้งแต่เมื่อเดือนมิถุนายน ปี 2010 กล่าวระหว่างเดินทางไปเยี่ยมวิทยาลัยการทหารของฟิลิปปินส์ โดยระบุว่าการแก้ปัญหาความขัดแย้งเหนือแคว้นซาบาห์จำเป็นต้องกระทำผ่านกลไกของการเจรจาอย่างจริงใจระหว่างฝ่ายที่เกี่ยวข้อง มิใช่การใช้กำลังเข้าตัดสิน แต่ยอมรับว่าปัญหาที่เกิดมีความซับซ้อนและกระทบกับความมั่นคงของมาเลเซีย และคงเป็นไปไม่ได้ที่นายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัค หรือผู้นำคนใดของมาเลเซียจะยอมโอนอ่อนต่อเรื่องดังกล่าว
ความเคลื่อนไหวล่าสุดของผู้นำฟิลิปปินส์มีขึ้นหลังจากเกิดวิกฤตด้านความมั่นคงที่เลวร้ายที่สุดเหนือแคว้นซาบาห์ของมาเลเซีย ซึ่งตั้งอยู่บนเกาะบอร์เนียว เมื่อญามาลุล กิราม ที่ 3 ผู้สถาปนาตนเองเป็นสุลต่านแห่งซูลู พร้อมกองกำลังติดอาวุธมากกว่า 200 คนบุกเข้าไปยึดเมืองในรัฐซาบาห์เมื่อต้นเดือนมีนาคม โดยอ้างว่าอธิปไตยเหนือดินแดนดังกล่าวเป็นของรัฐสุลต่านซูลูมานานหลายร้อยปี เป็นเหตุให้เกิดการปะทะหลายระลอกกับกองกำลังความมั่นคงมาเลเซียจนมีผู้เสียชีวิตหลายสิบราย ส่งผลให้ความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลกัวลาลัมเปอร์และมะนิลาตึงเครียดอย่างหนัก
ก่อนหน้านี้ในช่วงทศวรรษ 1870 รัฐสุลต่านแห่งซูลูได้ยินยอมให้บริษัทของอังกฤษเช่าพื้นที่ทางตอนเหนือของเกาะบอร์เนียวซึ่งครอบคลุมถึงดินแดนที่เป็นแคว้นซาบาห์ในปัจจุบัน แม้ต่อมานครรัฐสุลต่านซูลูได้เสื่อมอิทธิพลลงแต่อังกฤษยังคงจ่ายค่าเช่าซาบาห์ให้แก่นครรัฐแห่งนี้ต่อไป จนเมื่อมีการก่อตั้งประเทศมาเลเซียใน ปี 1963 ดินแดนที่เป็นที่ตั้งของซาบาห์ได้ถูกผนวกเป็นส่วนหนึ่งของสหพันธรัฐมาเลเซียด้วย ทำให้เกิดความไม่ชัดเจนเกี่ยวกับสถานะทางกฎหมายของซาบาห์ จนกลายเป็นที่มาของวิกฤตด้านความมั่นคงดังกล่าว