เอเอฟพี - เด็กที่ดูโทรทัศน์มากเกินไปมีแนวโน้มที่จะก่อคดีอาชญากรรม หรือเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีพฤติกรรมก้าวร้าว ผลวิจัยในนิวซีแลนด์ ระบุ
นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยโอทาโกได้ศึกษาพฤติกรรมการดูโทรทัศน์ของเด็กราว 1,000 คนที่เกิดในช่วงต้นทศวรรษ 1970 ซึ่งมีอายุระหว่าง 5-15 ปีในขณะนั้น และติดตามผลเมื่อกลุ่มสำรวจมีอายุได้ 26 ปี เพื่อวิเคราะห์อิทธิพลที่สื่อโทรทัศน์มีต่อการใช้ชีวิตของพวกเขา
ผลวิจัยซึ่งตีพิมพ์ในวารสารกุมารเวชศาสตร์ในสหรัฐฯสัปดาห์นี้ พบความเชื่อมโยงเป็นพิเศษระหว่างการดูโทรทัศน์ในวัยเด็กกับพฤติกรรมต่อต้านสังคมในวัยผู้ใหญ่
“แนวโน้มการก่อคดีอาชญากรรมในวัยผู้ใหญ่ตอนต้นเพิ่มขึ้นราว 30% ในทุกๆชั่วโมงที่เด็กดูโทรทัศน์ตลอดคืนวันจันทร์-ศุกร์” บ็อบ แฮนค็อกซ์ หนึ่งในผู้วิจัย ระบุ
ผลการศึกษายังพบว่า การดูโทรทัศน์มากไปมีส่วนทำให้เด็กแสดงพฤติกรรมก้าวร้าวและอารมณ์เชิงลบบ่อยขึ้น ซึ่งความเชื่อมโยงนี้ยังคงมีนัยยะสำคัญทางสถิติ แม้จะคำนึงถึงปัจจัยอื่นๆ เช่น ระดับสติปัญญา, สถานะทางสังคม และการควบคุมของผู้ปกครองแล้วก็ตาม
“แม้เราจะกล่าวไม่ได้ว่า การดูโทรทัศน์เป็นสาเหตุของพฤติกรรมต่อต้านสังคมทุกชนิด แต่อย่างน้อยสิ่งที่พบก็พอจะชี้ได้ว่า หากให้เด็กดูโทรทัศน์น้อยลงน่าจะช่วยลดพฤติกรรมต่อต้านสังคมลงได้” แฮนค็อกซ์ เผย
ผลวิจัยชิ้นนี้ยังส่งเสริมคำแนะนำจากสถาบันกุมารเวชศาสตร์แห่งอเมริกาที่ระบุว่า เด็กควรชมรายการคุณภาพทางโทรทัศน์ไม่เกิน 1-2 ชั่วโมงต่อวัน
นอกจากเนื้อหาของรายการที่อาจจะเผยพฤติกรรมก้าวร้าวให้เด็กเลียนแบบแล้ว การที่เด็กนั่งดูทีวีติดต่อกันหลายชั่วโมงยังทำให้พวกเขาขาดการปฏิสัมพันธ์กับคนรอบข้างด้วย
“กลไกเหล่านี้ทำให้เด็กมีปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนฝูงและพ่อแม่น้อยลง, ผลสัมฤทธิ์ในการเรียนลดลง และมีแนวโน้มที่จะตกงานมากขึ้น” ผลวิจัยเผย
แฮนค็อกซ์ ระบุว่า งานวิจัยชิ้นนี้ศึกษาจากพฤติกรรมการดูโทรทัศน์ของเยาวชนในทศวรรษ 1970-80 หรือก่อนที่จะมีคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล
“ถ้าคุณเล่นเกมคอมพิวเตอร์ที่ไม่เพียงแสดงพฤติกรรมก้าวร้าว แต่ยังจำลองสถานการณ์การยิงกันอีกด้วย ผลที่ได้รับก็อาจเลวร้ายยิ่งกว่านี้ แต่ผมก็ยังไม่มีข้อมูลในจุดนั้น”