รอยเตอร์ - ศพของหญิงที่น่าเกลียดที่สุดในโลกได้รับการฝัง ณ บ้านเกิด ในเมืองทางตอนเหนือของเม็กซิโกแล้ว เมื่อวันอังคาร (12) เป็นเวลานานถึง 150 ปี หลังจากเธอเสียชีวิต และต้องใช้ชีวิตอย่างน่าเศร้าด้วยการแสดงเป็นตัวประหลาดในคณะละครสัตว์ทั่วโลก
จูเลีย ปาสตรานา ลืมตาดูโลกในเม็กซิโกเมื่อปี 1834 พร้อมกับอาการของโรคมนุษย์หมาป่า (hypertrichosis) และเหงือกงอกเกิน (gingival hyperplasia) ซึ่งทำให้ใบหน้าของเธอมีขนขึ้นดก และขากรรไกรหนาผิดปกติ จนเธอถูกเรียกว่าเป็น “มนุษย์หมี” หรือ “สาววานร”
ในช่วงกลางทศวรรษที่ 1850 ปาสตรานาได้พบกับธีโอดอร์ เลนต์ ผู้ควบคุมการแสดง ซึ่งพาเธอออกโชว์ตัว โดยตะลอนไปตามที่ต่างๆ ทั่วสหรัฐฯ และยุโรป ก่อนที่ทั้งคู่จะแต่งงานกัน
ในปี 1860 ปาสตรานาเสียชีวิตในกรุงมอสโก หลังจากให้กำเนิดลูกชายของเลนต์ ซึ่งก็สืบทอดพันธุกรรมของมารดามาทั้งหมด โดยทารกน้อยก็สิ้นใจในอีกไม่กี่วันต่อมา หลังจากนั้นเลนต์จึงได้ออกทัวร์อีกครั้งพร้อมกับศพของสองแม่ลูกที่ดองแล้ว และหลังจากการเปลี่ยนมือผู้ครอบครองมาหลายครั้ง ร่างไร้วิญญาณของทั้งคู่ไปหยุดอยู่ที่มหาวิทยาลัยออสโล ในนอร์เวย์
“ลองนึกภาพการล่วงละเมิด และความโหดร้ายของมนุษย์ที่เธอต้องประสบพบเจอ และวิธีการที่เธอเอาชนะมันมาได้ มันเป็นเรื่องราวที่น่าภาคภูมิอย่างมาก” มาริโอ โลเปซ ผู้ว่าการรัฐซีนาโลอา ผู้เดินเรื่องขอนำศพของเธอกลับมาฝังยังบ้านเกิดกล่าว
“เมื่อผมได้ยินเรื่องเกี่ยวกับหญิงชาวซีนาโลอารายนี้ ผมบอกเลยว่าไม่มีทางจะปล่อยให้เธอถูกกักขังไว้ในโกดังสักแห่งหนึ่งแน่นอน” เขาเสริม
ในวันอังคาร (12) ฝูงชนจำนวนมากรวมตัวกันในเมืองเล็กๆ เพื่อแสดงความเคารพศพของปาสตรานา ซึ่งถูกฝังในโลงสีขาวประดับประดาด้วยดอกกุหลาบ