เอเอฟพี - สกอตแลนด์อาจสูญเสียสมาชิกภาพในองค์กรระหว่างประเทศ เช่น องค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) และสหภาพยุโรป (อียู) หากลงประชามติขอแยกตัวเป็นอิสระจากอังกฤษ ข้อแนะนำด้านกฎหมายที่รัฐบาลอังกฤษเผยแพร่วันนี้(11) ระบุ
ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมาย 2 รายซึ่งรัฐบาลอังกฤษมอบหมายให้เขียนบทความดังกล่าว ชี้ว่า ดินแดนอังกฤษที่เหลืออยู่จะยังมีสถานะคงเดิมทุกประการ หากผลการทำประชามติในปี 2014 ออกมาว่า พลเมืองในสกอตแลนด์ต้องการแยกประเทศ
ในกรณีเช่นนั้น สกอตแลนด์จะกลายเป็น “รัฐใหม่” ซึ่งไม่ได้เป็นภาคีสนธิสัญญาหรือสมาชิกองค์กรระหว่างประเทศใดๆเลย รวมไปถึงนาโต, กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) และธนาคารโลก
สำนักงานของนายกรัฐมนตรี เดวิด คาเมรอน แห่งอังกฤษ จัดพิมพ์เอกสารความยาว 57 หน้ากระดาษ เพื่อไขข้อข้องใจเกี่ยวกับสถานะทางกฎหมายของสกอตแลนด์ในฐานะรัฐที่ไม่ขึ้นตรงต่ออังกฤษ
“หากสกอตแลนด์เป็นรัฐอิสระ ดินแดนอังกฤษที่เหลืออยู่เท่านั้นที่จะคงสิทธิ, พันธกิจ และอำนาจตามกฎหมายระหว่างประเทศ และไม่จำเป็นต้องเริ่มเจรจาสนธิสัญญาต่างๆที่มีอยู่แล้วในปัจจุบัน หรือสมัครเข้าเป็นสมาชิกองค์กรระหว่างประเทศอีกครั้ง” ถ้อยแถลงจากสำนักนายกรัฐมนตรีอังกฤษซึ่งแนบท้ายมาด้วย ระบุ
ข้อเขียนของศาสตราจารย์ เจมส์ ครอว์เฟิร์ด จากมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ และศาสตราจารย์ อลัย บอยล์ จากมหาวิทยาลัยเอดินบะระ ระบุเหตุผลไว้ 4 ประการ:
ประการแรก การแยกประเทศที่เกิดขึ้นในประวัติศาสตร์ยุคใหม่ล้วนใช้หลักการเดียวกันนี้ เช่น อังกฤษกับไอร์แลนด์ ในปี 1922, อินเดีย ปี 1947, สิงคโปร์และมาเลเซีย ปี 1965, บังกลาเทศและปากีสถาน ปี 1971, สหภาพโซเวียต ปี 1990 และซูดานกับซูดานใต้ ปี 2011
ประการที่สอง จำนวนประชากรและดินแดนส่วนใหญ่เป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสิน ซึ่งกรณีนี้อังกฤษจะยังมีประชากรส่วนใหญ่ (ร้อยละ 92) และดินแดนส่วนใหญ่ (ร้อยละ 68) หลังจากสกอตแลนด์แยกประเทศ
ประการที่สาม อังกฤษมีบทบาทสำคัญในการปกปักรักษากฎระเบียบนานาชาติ และเป็น 1 ใน 5 สมาชิกถาวรในคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ, สมาชิกนาโต, รัฐที่ครอบครองอาวุธนิวเคลียร์ตามสนธิสัญญาลดการสะสมอาวุธ และสมาชิกสหภาพยุโรป ซึ่งการเปลี่ยนแปลงสถานะของอังกฤษจะก่อให้เกิด “ความยุ่งยากครั้งใหญ่”
ประการสุดท้าย รัฐบาลอังกฤษปฏิเสธที่จะมีสถานะเป็น “รัฐใหม่”
ศาสตราจารย์ทั้ง 2 ท่าน “ไม่เห็นด้วยกับความเห็นที่ว่า การทำประชามติขอแยกประเทศจะส่งผลให้เกิดรัฐใหม่ 2 รัฐ และเป็นไปไม่ได้ในทางกฎหมายที่ทั้ง 2 รัฐจะยังคงสถานะทางกฎหมายเหมือนเมื่อครั้งที่รวมกันเป็นรัฐเดียว” รัฐบาลอังกฤษ แถลง
ครอว์เฟิร์ด และ บอยล์ ยังปฏิเสธแนวคิดที่ว่า สกอตแลนด์สามารถกลับไปมีสถานะเหมือนก่อนทำพระราชบัญญัติสหภาพ ปี 1707
เมื่อวานนี้(10) คาเมรอน ออกมาเรียกร้องให้ชาวสกอตแลนด์ล้มเลิกความคิดที่จะแยกตัวเป็นอิสระ โดยชี้แจงง่ายๆว่า “อังกฤษใช้การได้ อังกฤษใช้การได้ดีเสียด้วย แล้วจะแยกไปทำไม”
ผลสำรวจความเห็นชาวสกอตแลนด์จำนวน 1,003 คนโดย Angus Reid ที่เผยแพร่ลงหนังสือพิมพ์ เดอะ สกอตสแมน เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมาพบว่า พลเมืองสกอตแลนด์ร้อยละ 32 สนับสนุนการแยกประเทศ ร้อยละ 47 คัดค้าน และอีกร้อยละ 20 ยังไม่ตัดสินใจ
