เอเอสทีวีผู้จัดการสุดสัปดาห์ - และแล้วก็เวียนมาบรรจบอีกครั้งสำหรับงานเทศกาลที่ยิ่งใหญ่ หรูหรา ฟู่ฟ่า อลังการ และมีสีสันที่สุดงานหนึ่งของโลก กับ “ริโอ คาร์นิวัล” ที่จะได้เห็นขบวนพาเหรดของทั้งชาย และหญิง รวมถึงสาวประเภทสองในชุดแฟนซีสุดสะดุดตา โยกย้ายส่ายสะโพกตามเพลงจังหวะแซมบ้าอันครึกครื้น ซึ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวจำนวนมากจากทั่วโลกให้เดินทางไปเที่ยวประเทศบราซิล เพื่อร่วมเฉลิมฉลองเทศกาลนี้ได้เป็นประจำทุกปี โดยในปี 2013 นี้ก็คาดว่าจะคึกคักไม่แพ้ปีที่ผ่านๆ มา
เทศกาลคาร์นิวัลถูกจัดขึ้นในหลายๆ ประเทศ ที่นับถือศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก แต่ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง และดึงดูดใจนักท่องเที่ยวทั่วโลกได้มากที่สุดก็คืองานคาร์นิวัลของบราซิล โดยเฉพาะคาร์นิวัลที่เมืองริโอ เดอ จาเนโร ซึ่งได้รับการยอมรับว่าเป็นเมืองหลวงแห่งเทศกาลคาร์นิวัลของโลก และถือเป็นประเพณีที่จะต้องจัดขึ้นทุกปีมาตั้งแต่ทศวรรษ 1930 แต่เมืองสำคัญอื่นๆ ของบราซิล เช่น เซาเปาลู ซึ่งเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจของประเทศ และ ซัลวาดอร์ เด บาเอีย ศูนย์กลางวัฒนธรรมอะโฟร-บราซิลเลียน ก็จัดงานเฉลิมฉลองเดียวกันนี้อย่างมีสีสันตระการตาไม่แพ้กัน
สำหรับริโอ คาร์นิวัลนั้นจัดขึ้นเป็นเวลา 5 วัน ก่อนจะเริ่มเทศกาลมหาพรต (Lent) ของชาวคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก ในวันพุธ (Ash Wednesday) สำหรับปีนี้ งานฉลองได้เริ่มเปิดฉากตั้งแต่วันศุกร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ ไปจนถึงวันอังคารที่ 12 กุมภาพันธ์ ซึ่งหลังงานเทศกาล ชาวคริสต์ทุกคนถูกคาดหวังให้ละเว้นจากความสุขทางกาย หรือเป็นช่วงถือศีลอดเป็นเวลา 40 วัน ถือได้ว่าการสนุกสุดเหวี่ยงในเทศกาลคาร์นิวัลนั้นเป็นการบอกลาต่อความสุขจากเนื้อหนังมังสาก็ว่าได้ โดยจุดสำคัญที่สุดของงานเทศกาลนี้อยู่ที่ การแข่งขันระบำแซมบ้าของโรงเรียนสอนเต้นแถวหน้าของบราซิล 12 แห่ง ซึ่งจะประชันกันทั้งลีลาการเต้น ความเริ่ดหรูอลังการของเสื้อผ้าหน้าผม และความงดงามของขบวนรถแห่ที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ ณ สนามกีฬาแซมโบโดรม
ตามข้อมูลของสำนักงานการท่องเที่ยวเมืองริโอ งานคาร์นิวัลบนท้องถนนในปีนี้จะมีนักแสดง และแดนเซอร์จาก 492 คณะ และผู้ให้ความสนใจเข้าร่วมงามกว่า 5 ล้านคนทีเดียว “ริโอ คาร์นิวัล” นั้นไม่ได้เป็นเพียงงานคาร์นิวัลที่ใหญ่โตที่สุดในโลก แต่ยังเป็นมาตรฐานในการเปรียบเทียบกับงานเทศกาลคาร์นิวัลอื่นๆ อีกทั้งยังเป็นหนึ่งในงานแสดงผลงานทางด้านศิลปะที่น่าสนใจที่สุดบนโลกใบนี้อีกด้วย
นอกเหนือจากขบวนพาเหรดสุดอลังการงานสร้าง ที่บรรดาโรงเรียนสอนเต้นจังหวะแซมบ้าต้องงัดฝีมือออกมาโชว์กันอย่างจริงจัง รวมทั้งนักระบำเท้าไฟในคอสตูมสุดสยิวโชว์สัดส่วนแล้ว สัญลักษณ์อีกอย่างหนึ่งของงานเทศกาลนี้ก็คือ “คิงโมโม” หรือราชาของริโอ คาร์นิวัล นั่นเอง โดยเขาจะทำหน้าที่รับมอบกุญแจเมืองจากนายกเทศมนตรี ซึ่งจะถือเป็นการเปิดฉากการเฉลิมฉลอง ดื่มกิน และเต้นรำ อันยิ่งใหญ่ตระการตานี้อย่างเป็นทางการ ส่วนผู้ที่ได้รับเลือกให้เป็นคิงโมโมของงานในปีนี้คือ มิลตัน โรดริเกส ดา ซิลวา ผู้ครองมงกุฎราชาแห่งริโอ คาร์นิวัลมาแล้ว 5 ปีติดต่อกัน
ดา ซิลวา หรือที่คนเมืองริโอต่างรู้จักกันดีในฐานะ คิงโมโม เริ่มถูกดูดดึงเข้าสู่จิตวิญญาณของงานคาร์นิวัลในปี 1995 เมื่อเขาทำงานในโรงเรียนสอนเต้นปอร์เตลา ทั้งที่สมัยเด็กเขาก็ไม่ได้ชื่นชอบงานคาร์นิวัลนี้แต่อย่างใด ทว่า เขาก็ตกหลุมรักเทศกาลนี้ในที่สุด แต่กว่าที่เขาจะได้ขึ้นมาเป็นคิงโมโมนั้น อดีตพนักงานธนาคาร ผู้มีน้ำหนักมากถึง 150 กิโลกรัมรายนี้ก็ต้องดิ้นรนต่อสู้มาอย่างยากเย็น หลังจากตัดสินใจเข้าร่วมการแข่งขันชิงตำแหน่งดังกล่าวครั้งแรกในปี 2003 แต่มาคว้าชัยชนะเอาได้ 5 ปีหลังจากนั้น และก็ครองมงกุฎนี้เรื่อยมา พร้อมกับเงินรางวัล 9,800 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ 2.9 แสนบาทในแต่ละปี
ในฐานะราชาแห่งคาร์นิวัล ดา ซิลวาต้องกล่าวอารัมภบททั้งในงานเลี้ยงที่เป็นส่วนตัว งานปาร์ตี้ตามท้องถนน และที่สำคัญกว่าคือการเปิดงานเดินขบวนพาเหรดแซมบ้ายามค่ำคืน ณ แซมโบโดรม ในคืนวันอาทิตย์ และวันจันทร์ อันเป็นไคลแมกซ์ของเทศกาลนี้ ซึ่งส่วนตัวเขาเองก็รู้สึกรักในหน้าที่ของเขา และหวังว่าจะยังคงรักษาตำแหน่งนี้ไปจนถึงปี 2016 ซึ่งเมืองริโอ เดอ จาเนโรจะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกส์
ด้าน ทางการบราซิลก็ดำเนินงานคาร์นิวัลปีนี้เสมือนหนึ่งเป็นการฝึกซ้อมรับมือผู้คน ที่คาดว่าจะหลั่งไหลเข้าประเทศในปีหน้า ซึ่งแดนแซมบ้าจะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลโลก ส่วนกระทรวงสาธารณสุขพยายามรณรงค์การป้องกันโรคเอดส์ เพื่อเตือนสตินักปาร์ตี้ทั้งหลายให้คำนึงถึงการมีเซ็กซ์อย่างปลอดภัย โดยการใช้ถุงยางอนามัย และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง หลังจากเกิดโศกนาฏกรรมไฟไหม้ไนต์คลับในเมืองเซาเปาลู เมื่อเดือนที่ผ่านมา ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนไปถึง 236 ราย ก็ยิ่งทำให้เจ้าหน้าที่ต้องใส่ใจความปลอดภัยของประชาชนมากเป็นพิเศษ.
เทศกาลคาร์นิวัลถูกจัดขึ้นในหลายๆ ประเทศ ที่นับถือศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก แต่ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง และดึงดูดใจนักท่องเที่ยวทั่วโลกได้มากที่สุดก็คืองานคาร์นิวัลของบราซิล โดยเฉพาะคาร์นิวัลที่เมืองริโอ เดอ จาเนโร ซึ่งได้รับการยอมรับว่าเป็นเมืองหลวงแห่งเทศกาลคาร์นิวัลของโลก และถือเป็นประเพณีที่จะต้องจัดขึ้นทุกปีมาตั้งแต่ทศวรรษ 1930 แต่เมืองสำคัญอื่นๆ ของบราซิล เช่น เซาเปาลู ซึ่งเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจของประเทศ และ ซัลวาดอร์ เด บาเอีย ศูนย์กลางวัฒนธรรมอะโฟร-บราซิลเลียน ก็จัดงานเฉลิมฉลองเดียวกันนี้อย่างมีสีสันตระการตาไม่แพ้กัน
สำหรับริโอ คาร์นิวัลนั้นจัดขึ้นเป็นเวลา 5 วัน ก่อนจะเริ่มเทศกาลมหาพรต (Lent) ของชาวคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก ในวันพุธ (Ash Wednesday) สำหรับปีนี้ งานฉลองได้เริ่มเปิดฉากตั้งแต่วันศุกร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ ไปจนถึงวันอังคารที่ 12 กุมภาพันธ์ ซึ่งหลังงานเทศกาล ชาวคริสต์ทุกคนถูกคาดหวังให้ละเว้นจากความสุขทางกาย หรือเป็นช่วงถือศีลอดเป็นเวลา 40 วัน ถือได้ว่าการสนุกสุดเหวี่ยงในเทศกาลคาร์นิวัลนั้นเป็นการบอกลาต่อความสุขจากเนื้อหนังมังสาก็ว่าได้ โดยจุดสำคัญที่สุดของงานเทศกาลนี้อยู่ที่ การแข่งขันระบำแซมบ้าของโรงเรียนสอนเต้นแถวหน้าของบราซิล 12 แห่ง ซึ่งจะประชันกันทั้งลีลาการเต้น ความเริ่ดหรูอลังการของเสื้อผ้าหน้าผม และความงดงามของขบวนรถแห่ที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ ณ สนามกีฬาแซมโบโดรม
ตามข้อมูลของสำนักงานการท่องเที่ยวเมืองริโอ งานคาร์นิวัลบนท้องถนนในปีนี้จะมีนักแสดง และแดนเซอร์จาก 492 คณะ และผู้ให้ความสนใจเข้าร่วมงามกว่า 5 ล้านคนทีเดียว “ริโอ คาร์นิวัล” นั้นไม่ได้เป็นเพียงงานคาร์นิวัลที่ใหญ่โตที่สุดในโลก แต่ยังเป็นมาตรฐานในการเปรียบเทียบกับงานเทศกาลคาร์นิวัลอื่นๆ อีกทั้งยังเป็นหนึ่งในงานแสดงผลงานทางด้านศิลปะที่น่าสนใจที่สุดบนโลกใบนี้อีกด้วย
นอกเหนือจากขบวนพาเหรดสุดอลังการงานสร้าง ที่บรรดาโรงเรียนสอนเต้นจังหวะแซมบ้าต้องงัดฝีมือออกมาโชว์กันอย่างจริงจัง รวมทั้งนักระบำเท้าไฟในคอสตูมสุดสยิวโชว์สัดส่วนแล้ว สัญลักษณ์อีกอย่างหนึ่งของงานเทศกาลนี้ก็คือ “คิงโมโม” หรือราชาของริโอ คาร์นิวัล นั่นเอง โดยเขาจะทำหน้าที่รับมอบกุญแจเมืองจากนายกเทศมนตรี ซึ่งจะถือเป็นการเปิดฉากการเฉลิมฉลอง ดื่มกิน และเต้นรำ อันยิ่งใหญ่ตระการตานี้อย่างเป็นทางการ ส่วนผู้ที่ได้รับเลือกให้เป็นคิงโมโมของงานในปีนี้คือ มิลตัน โรดริเกส ดา ซิลวา ผู้ครองมงกุฎราชาแห่งริโอ คาร์นิวัลมาแล้ว 5 ปีติดต่อกัน
ดา ซิลวา หรือที่คนเมืองริโอต่างรู้จักกันดีในฐานะ คิงโมโม เริ่มถูกดูดดึงเข้าสู่จิตวิญญาณของงานคาร์นิวัลในปี 1995 เมื่อเขาทำงานในโรงเรียนสอนเต้นปอร์เตลา ทั้งที่สมัยเด็กเขาก็ไม่ได้ชื่นชอบงานคาร์นิวัลนี้แต่อย่างใด ทว่า เขาก็ตกหลุมรักเทศกาลนี้ในที่สุด แต่กว่าที่เขาจะได้ขึ้นมาเป็นคิงโมโมนั้น อดีตพนักงานธนาคาร ผู้มีน้ำหนักมากถึง 150 กิโลกรัมรายนี้ก็ต้องดิ้นรนต่อสู้มาอย่างยากเย็น หลังจากตัดสินใจเข้าร่วมการแข่งขันชิงตำแหน่งดังกล่าวครั้งแรกในปี 2003 แต่มาคว้าชัยชนะเอาได้ 5 ปีหลังจากนั้น และก็ครองมงกุฎนี้เรื่อยมา พร้อมกับเงินรางวัล 9,800 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ 2.9 แสนบาทในแต่ละปี
ในฐานะราชาแห่งคาร์นิวัล ดา ซิลวาต้องกล่าวอารัมภบททั้งในงานเลี้ยงที่เป็นส่วนตัว งานปาร์ตี้ตามท้องถนน และที่สำคัญกว่าคือการเปิดงานเดินขบวนพาเหรดแซมบ้ายามค่ำคืน ณ แซมโบโดรม ในคืนวันอาทิตย์ และวันจันทร์ อันเป็นไคลแมกซ์ของเทศกาลนี้ ซึ่งส่วนตัวเขาเองก็รู้สึกรักในหน้าที่ของเขา และหวังว่าจะยังคงรักษาตำแหน่งนี้ไปจนถึงปี 2016 ซึ่งเมืองริโอ เดอ จาเนโรจะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกส์
ด้าน ทางการบราซิลก็ดำเนินงานคาร์นิวัลปีนี้เสมือนหนึ่งเป็นการฝึกซ้อมรับมือผู้คน ที่คาดว่าจะหลั่งไหลเข้าประเทศในปีหน้า ซึ่งแดนแซมบ้าจะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลโลก ส่วนกระทรวงสาธารณสุขพยายามรณรงค์การป้องกันโรคเอดส์ เพื่อเตือนสตินักปาร์ตี้ทั้งหลายให้คำนึงถึงการมีเซ็กซ์อย่างปลอดภัย โดยการใช้ถุงยางอนามัย และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง หลังจากเกิดโศกนาฏกรรมไฟไหม้ไนต์คลับในเมืองเซาเปาลู เมื่อเดือนที่ผ่านมา ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนไปถึง 236 ราย ก็ยิ่งทำให้เจ้าหน้าที่ต้องใส่ใจความปลอดภัยของประชาชนมากเป็นพิเศษ.
