เอเอฟพี - ฟิเดล คาสโตร อดีตผู้นำคิวบาซึ่งสุขภาพไม่ดีนัก สร้างความประหลาดใจโดยการปรากฏตัวต่อสาธารณะ ในวันอาทิตย์ (3) เพื่อลงคะแนนเสียงเลือกตั้งรัฐสภาในกรุงฮาวานา พร้อมแสดงออกถึงความมั่นใจในการปฏิวัติประเทศ แม้ถูกสหรัฐฯ แบนการค้ามานานหลายทศวรรษ
การปรากฏตัวของคาสโตร ณ คูหาเลือกตั้งในเขตเอล เบดาโด ถือเป็นเหตุการณ์สำคัญในวันอาทิตย์ ขณะที่ชาวคิวบาออกมาใช้สิทธิเลือกสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และสภาท้องถิ่นรวม 612 คน
“ผมแน่ใจว่าชาวคิวบาเป็นประชาชนแห่งการปฏิวัติจริงๆ” คาสโตร วัย 86 ปีกล่าวกับผู้สื่อข่าว ซึ่งรายล้อมรอบตัวเขาในคูหาเลือกตั้ง และว่า “ผมไม่จำเป็นต้องพิสูจน์ ประวัติศาสตร์ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้ว และการขัดขวางของสหรัฐฯ ตลอด 50 ปี ก็ไม่สามารถเอาชนะเราได้”
ทั้งนี้ สหรัฐฯ ประกาศห้ามทำการค้า ทั้งยังปิดล้อมทางเศรษฐกิจและการเงินต่อคิวบา ในเดือนตุลาคม ปี 1960 หลังรัฐบาลคาสโตรปฏิวัติโอนทรัพย์สินของทั้งพลเมือง และบริษัทอเมริกันให้เป็นของรัฐ อีกทั้งยังขยายข้อห้ามดังกล่าวในปี 1962 เมื่อคิวบาร่วมเป็นพันธมิตรกับโซเวียต
สถานีโทรทัศน์ และหนังสือพิมพ์คิวบารายงานภาพของอดีตผู้นำ ซึ่งค่อนข้างหลังโกงถือไม้เท้า สวมเสื้อสีดำ และแจ๊กเก็ต กำลังพูดคุยกับเหล่าผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้งในคูหา
คาสโตร ซึ่งก้าวขึ้นสู่อำนาจหลังการปฏิวัติในปี 1959 ได้สละตำแหน่งผู้นำประเทศให้แก่ ราอูล คาสโตร น้องชายวัย 81 ปี เมื่อเดือนกรกฎาคม ปี 2006 ด้วยเหตุผลทางด้านสุขภาพ และหลังจากไม่ค่อยปรากฏตัวต่อสาธารณะเป็นเวลานาน จึงเกิดกระแสข่าวลือที่ว่าอาการป่วยของเขาทรุดหนัก และกำลังนอนรอความตาย