รัสเซียโวยรับไม่ได้ยิวถล่มซีเรีย ยังสับสนโจมตีรถขนอาวุธเคมีใช่ไหม

เอเจนซีส์ - รัสเซียออกมาแสดงความกังวลเมื่อวันพฤหัสบดี (31 ม.ค.) ระบุเป็นการละเมิดกฎบัตรสหประชาชาติอย่างยอมรับไม่ได้ หลังจากที่อิสราเอลถูกกล่าวหาว่าเปิดการโจมตีทางอากาศต่อซีเรีย โดยที่ดามัสกัสรายงานว่า ฝูงเครื่องบินไอพ่นของรัฐยิวเข้าถล่มศูนย์วิจัยทางการทหารใกล้เมืองหลวงตอนรุ่งเช้าวันพุธ (30 ม.ค.) แต่ปฏิเสธข่าวที่ว่าขบวนรถขนอาวุธเคมีไปให้พวกฮิสบอลเลาะห์ได้ถูกเครื่องบินอิสราเอลเล่นงานที่บริเวณใกล้พรมดินติดกับเลบานอน สำหรับทางการรัฐยิวยังใช้ท่าทีนิ่งเฉยไม่แถลงอะไร

กระทรวงการต่างประเทศรัสเซียออกคำแถลงแสดงความกังวลอย่างลึกซึ้ง หลังจากทางการซีเรียระบุว่า ศูนย์วิจัยทางการทหารของตนในเมืองจามรายา ใกล้กรุงดามัสกัส ได้ถูกอิสราเอลโจมตีทางอากาศเมื่อรุ่งเช้าวันพุธ

คำแถลงจากมอสโกแจงว่า หากข้อมูลของซีเรียเป็นความจริง เท่ากับว่า เป็นการโจมตีโดยปราศจากการยั่วยุต่อเป้าหมายในดินแดนอธิปไตยของชาติอื่น ซึ่งถือว่า ละเมิดกฎบัตรสหประชาชาติ และเป็นการกระทำที่ยอมรับไม่ได้ ไม่ว่าการโจมตีนั้นจะมีแรงจูงใจใดๆ ก็ตาม

จากข้อมูลของกองทัพซีเรีย เครื่องบินรบของอิสราเอลได้รุกล้ำน่านฟ้า โดยบินในระดับต่ำกว่าการตรวจจับของเรดาร์ และโจมตีศูนย์วิจัยทางทหารที่รับผิดชอบการต่อต้านและการป้องกันตนเองของซีเรียเป็นเหตุให้มีคนงานเสียชีวิต 2 คน บาดเจ็บอีก 5 คน และอาคารได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง

ทว่า จากปากคำของชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในบริเวณนั้นกลับระบุว่า มีจรวด 6 ลูกยิงไปที่ศูนย์วิจัยดังกล่าวทำให้เกิดความเสียหายบางส่วน เกิดไฟไหม้ และมีคนตาย 2 คน ทั้งนี้เป็นที่ทราบกันว่าฝ่ายอิสราเอลเชื่อว่า ศูนย์วิจัยแห่งนี้เป็นสถานที่พัฒนาอาวุธชีวภาพและอาวุธเคมีของซีเรีย

ขณะเดียวกัน กองทัพซีเรียได้ปฏิเสธรายงานจากแหล่งข่าวหลายรายในวงการความมั่นคงที่ว่า เป้าหมายที่ถูกอิสราเอลโจมตีทางอากาศในคราวนี้ แท้ที่จริงเป็นขบวนรถบรรทุกที่กำลังขนอาวุธของซีเรียไปจนถึงบริเวณใกล้พรมแดนติดกับเลบานอน

ก่อนหน้านี้ อิสราเอลย้ำเตือนว่าหากคลังอาวุธเคมีของซีเรียตกอยู่ในมือกลุ่มฮิสบอลเลาะห์ในเลบานอน ซึ่งเป็นศัตรูตัวกลั่นของรัฐยิวแต่เป็นพันธมิตรใกล้ชิดประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาดแห่งซีเรีย ก็อาจทำให้เกิดสถานการณ์ที่นำไปสู่สงคราม

นอกจากนี้ อิสราเอลยังเตือนเกี่ยวกับการถ่ายโอนจรวดสกั๊ดหรืออาวุธขั้นสูงอื่นๆ เช่น ระบบต่อต้านอากาศยานและขีปนาวุธจากพื้นสู่พื้น ไปให้แก่ฮิสบอลเลาะห์ อันเป็นกลุ่มนักรบเลบานอนที่เคยสู้รบอย่างดุเดือดกับอิสราเอลในปี 2006

อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่รัฐบาลและกองทัพอิสราเอลไม่ได้ออกมายืนยันหรือปฏิเสธว่า มีส่วนเกี่ยวข้องกับการโจมตีศูนย์วิจัยทางการทหารตามที่ซีเรียกล่าวหาหรือไม่ อีกทั้งไม่ได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับรายงานที่ว่า เครื่องบินรบของตนโจมตีขบวนรถขนอาวุธตามแนวชายแดนซีเรีย-เลบานอน

ทางด้านแหล่งข่าวทางการทหารและความมั่นคงภายในของเลบานอน ก็ไม่ได้ยืนยันรายงานข่าวนี้เช่นกัน แต่ตั้งข้อสังเกตว่าเครื่องบินรบของอิสราเอลบินผ่านเลบานอนถี่ขึ้นในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเฉพาะในช่วงไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้านั้น

ขณะที่ผู้สังเกตการณ์ระบุว่า ปฏิบัติการล่าสุดนี้มีความคล้ายคลังกับการโจมตีโรงงานนิวเคลียร์ลับของซีเรียในอัล-คิบาร์ เมื่อปี 2007 ซึ่งเชื่อกันอย่างกว้างขวางว่าเป็นฝีมือของอิสราเอล ทว่ารัฐยิวไม่เคยออกมายอมรับแม้กระทั่งจนถึงวันนี้

เช่นเดียวกัน สหรัฐฯ ที่กำลังต้อนรับขับสู้การเยือนของอาวีฟ โคชาวี หัวหน้าหน่วยข่าวกรองทางทหารของอิสราเอล ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับรายงานล่าสุด

ตรงข้ามกับฮิสบอลเลาะห์ที่ออกคำแถลงจากสำนักงานใหญ่ในกรุงเบรุต เลบานอน ว่า การโจมตีทางอากาศต่อซีเรีย เป็นการ “กระชากหน้ากาก” ต้นตอที่แท้จริงของความขัดแย้งนองเลือดในซีเรียในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา และเผยให้เห็นวัตถุประสงค์ในการก่ออาชญากรรมเพื่อทำลายซีเรีย

อนึ่ง การโจมตีนี้เกิดขึ้นเพียงไม่กี่วันหลังจากอิสราเอลเคลื่อนย้ายระบบต่อต้านขีปนาวุธไอออนโดม ไปยังตอนเหนือของประเทศ ขณะที่มีความกังวลมากขึ้นว่า ความขัดแย้งในซีเรียอาจทำให้อาวุธเคมีรั่วไหลเข้าสู่เลบานอน