เอเจนซีส์ - ตำรวจบราซิลเชื่อ ต้นเหตุไฟนรกซึ่งคร่าเหยื่อ 234 ศพ มาจากการที่นักดนตรีเลือกซื้อพลุสำหรับจุดกลางแจ้งมาใช้จุดระหว่างการแสดงภายในไนต์คลับ เนื่องจากราคาถูกกว่ากันหลายเท่า รวมทั้งเชื่อว่า เทปจากกล้องวงจรปิดถูกนำไปซ่อนเพื่อปกปิดหลักฐาน ขณะเดียวกัน ทางการแซมบ้าวัวหายล้อมคอก หลายเมืองตื่นตัวกวดขันสถานบันเทิง และรัฐสภาตั้งคณะกรรมาธิการเพื่อร่างกฎหมายใหม่ป้องกันเหตุเพลิงไหม้ร้ายแรงเกิดซ้ำรอย
เจ้าหน้าที่สอบสวนตกอยู่ภายใต้แรงกดดันมหาศาลให้เร่งไขคดีนี้ เนื่องจากบราซิล ว่าที่เจ้าภาพมหกรรมฟุตบอลโลกปี 2014 และกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อนปี 2016 กำลังถูกจับตามองจากทั่วโลกว่า มีความสามารถขนาดไหนในการจัดกิจกรรมสาธารณะขนาดใหญ่ยักษ์ได้อย่างปลอดภัย
เมื่อวันจันทร์ (28) ตำรวจจับกุมเจ้าของร่วม 2 คนของไนต์คลับ คิส ซึ่งเป็นสถานที่เกิดเหตุโศกนาฏกรรมคราวนี้ ตลอดจนนักดนตรีอีก 2 คนที่ถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการจุดพลุที่กลายเป็นชนวนก่อให้เกิดอัคคีภัยครั้งร้ายแรงที่สุดในบราซิลในรอบ 5 ทศวรรษ
จากนั้นในวันอังคาร (29) มาร์เซโล อะริโกนี ผู้บังคับการตำรวจเมืองซานตา มาเรีย ระบุว่า นักดนตรีซื้อพลุมาจุดทั้งๆ ที่รู้ว่าเป็นพลุสำหรับใช้กลางแจ้ง เนื่องจากมีราคาเพียง 1.25 ดอลลาร์ ขณะที่พลุสำหรับจุดภายในอาคารราคาสูงถึงกว่า 35 ดอลลาร์
อะริโกนียังร่ายรายละเอียดการละเมิดข้อกำหนดด้านความปลอดภัยของไนต์คลับแห่งนี้ เป็นต้นว่า ไม่มีระบบไฟส่องสว่างฉุกเฉิน อุปกรณ์ดับเพลิงไม่ทำงาน และฟลอร์เต้นรำที่แออัดเกินไป
ตำรวจยังพยายามค้นหาเทปจากกล้องวงจรปิด รวมทั้งเครื่องคิดเงินเพื่อพิจารณาว่าไนต์คลับแห่งนี้ปล่อยให้ลูกค้าเข้าใช้บริการมากเกินไปหรือไม่
“ในคลับไม่มีกล้องวงจรปิดที่ควรมีติดตั้งอยู่ มิหนำซ้ำยังไม่มีคอมพิวเตอร์ที่มีหน่วยความจำสำหรับจัดเก็บข้อมูล” อัยการ เวอร์รัสกา อะกอสไทน์ แถลง
ด้านเจ้าของคลับอ้างว่า กล้องวงจรปิดขัดข้องมาสองเดือนแล้ว
ผู้รอดชีวิตบางคนเล่าว่า เห็นนักร้องนำของวงกูริซาดา แฟนแดนเกอรา จุดพลุเพื่อประกอบการแสดงของพวกเขาเมื่อเวลาประมาณตี 2 วันอาทิตย์ (27) ซึ่งได้กลายเป็นไฟไหม้ลุกลามใหญ่
เจอร์สัน ดา โรซา เพอไรรา จากแผนกดับเพลิงซานตา มาเรีย ระบุว่า โศกนาฏกรรมครั้งนี้เกิดจากการจุดพลุในพื้นที่อับ
ผู้รอดชีวิตเสริมว่า ไนต์คลับที่เปิดให้บริการทั้งที่ใบอนุญาตหมดอายุแห่งนี้ มีทางออกที่ใช้ได้เพียงทางเดียว ซึ่งตอนแรกถูกขวางด้วยราวเหล็กเนื่องจากเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยกลัวว่า ลูกค้าจะหนีออกไปโดยไม่จ่ายเงิน
เจ้าหน้าที่พบร่างผู้เสียชีวิตในห้องน้ำ 180 ศพ บ่งชี้ชัดเจนว่านักเที่ยวจำนวนมากสับสนกับทางออกฉุกเฉิน โดยเหยื่อส่วนใหญ่เสียชีวิตจากการสำลักควันขณะพยายามหนี
อเล็กซานเดอร์ พาดิลฮา รัฐมนตรีสาธารณสุข แถลงยอดผู้เสียชีวิตว่าอยู่ที่ 234 คน อีกกว่า 120 คนยังรักษาตัวในโรงพยาบาล และ 75 คนในจำนวนนี้มีอาการหนักและยังคงอยู่ในห้องไอซียู
รัฐริโอกรันดีโดซูล ที่เมืองซานตา มาเรียตั้งอยู่ ได้สั่งอายัดทรัพย์สินทั้งของเจ้าของไนต์คลับและบริษัทของพวกเขาแล้ว ขณะเดียวกัน นายกเทศมนตรีในหลายเมืองประกาศคุมเข้มไนต์คลับ ระหว่างการประชุมประจำปีร่วมกับประธานาธิบดีดิลมา รุสเซฟฟ์ โดยเฉพาะในเมืองมานอส ซึ่งอยู่ในแถบอะเมซอนนั้น มีการสั่งปิดและปรับไนต์คลับ 15 แห่งที่ฝ่าฝืนกฎหมาย
นอกจากนั้น ประธานสภาผู้แทนราษฎรราซิลยังตั้งคณะกรรมาธิการร่างกฎหมายความปลอดภัยฉบับใหม่เพื่อป้องกันเหตุเพลิงไหม้ในลักษณะที่เกิดขึ้นล่าสุด รวมทั้งทำให้กฎระเบียบของท้องถิ่นและรัฐบาลกลางมีความสอดประสานกันมากขึ้น
เหตุการณ์นี้ยังทำให้ประธานาธิบดีแดเนียล ออร์เตกา ของนิการากัว ออกคำสั่งห้ามจุดพลุทุกชนิดในสถานบันเทิงภายในอาคาร
ขณะเดียวกัน ประชาชนที่โกรธแค้นราว 15,000 คนเดินขบวนบนท้องถนนในเมืองซานตา มาเรียเมื่อคืนวันจันทร์ เพื่อเรียกร้องความยุติธรรมให้แก่เหยื่อผู้เสียชีวิต